Web Exclusive
ในภาษาญี่ปุ่นมี 3 คำที่บรรยายถึงลักษณะของสุนัขชิบะนั่นก็คือ  kaani-i (กล้าหาญกล้าได้กล้าเสีย), ryosei (เป็นธรรมชาติ) และ soboku (มีความตื่นตัว) ซึ่งนี่เป็นความผสมผสานที่ลงตัวทั้งเอาใจใส่ ฉลาด และนิสัยที่หนักแน่นของพวกมัน

Shiba Inu : ตัวแทนแห่งญี่ปุ่นผู้เขย่าโลกทั้งใบ

เรื่อง : howl the team

นี่คือสุนัขผู้สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับมนุษย์

ภายหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ญี่ปุ่นได้กลายเป็นหนึ่งในประเทศที่มีบทบาทต่อโลกทั้งใบในพริบตา แม้จะเป็นประเทศบนเกาะไม่ใหญ่นัก แต่กลับสามารถต่อสู้ทางเศรษฐกิจและวัฒนธรรมกับชาติมหาอำนาจตะวันตกได้อย่างสูสี จนบางคนถึงกับกล่าวว่านี่คือประเทศผู้สรรค์สร้างปาฏิหาริย์ก็ไม่ปาน และถ้าจะมีน้องหมาสายพันธุ์ไหนที่เป็นตัวแทนแห่งญี่ปุ่นได้ ก็คงต้องเป็น Shiba Inu น้องหมาผู้ทำให้เศรษฐกิจทั้งโลกต้องสั่นสะเทือนอีกครั้ง

ในบรรดาสุนัขสายพันธุ์ญี่ปุ่น 6 สายพันธุ์ Shiba Inu เป็นสุนัขที่มีขนาดตัวเล็กที่สุด เดิมทีสุนัขสายพันธุ์นี้ถูกเพาะพันธุ์สำหรับล่านกและหมูป่า จุดเด่นคือสามารถเคลื่อนที่ได้อย่างรวดเร็วคล่องแคล่วราวกับนินจา โดยในภาษาญี่ปุ่นมี 3 คำที่บรรยายถึงลักษณะของสุนัขชิบะนั่นก็คือ  kaani-i (กล้าหาญกล้าได้กล้าเสีย), ryosei (เป็นธรรมชาติ) และ soboku (มีความตื่นตัว) ซึ่งนี่เป็นความผสมผสานที่ลงตัวทั้งเอาใจใส่ ฉลาด และนิสัยที่หนักแน่นของพวกมัน

ส่วนที่มาของชื่อชิบะนั้น เชื่อกันว่ามีอยู่หลายทฤษฎี คำอธิบายแรกก็คือ “ชิบะ” มีความหมายว่าพุ่มไม้ต่ำ สุนัขเหล่านี้ถูกตั้งชื่อจากพุ่มไม้ที่มันล่าเหยื่อ อีกทฤษฎีคือสีแดงคล้ายเปลวไฟของมันเหมือนกับสีของฤดูใบไม้ร่วง และทฤษฎีสุดท้ายคือชิบะหมายถึงขนาดตัวที่เล็กของพวกมันนั่นเอง

จุดพลิกผันสำคัญของสายพันธุ์ Shiba Inu คือสงครามโลกครั้งที่ 2 ผลพวงของการทำลายล้างของสงครามนั้นส่งผลให้ชิบะเกือบจะสูญพันธุ์ลง จำนวนของมันลดลงไปมากเสียจนน่าใจหาย และสุนัขส่วนใหญ่ที่รอดตายในช่วงหลังสงครามนั้นก็จะมีความดุร้ายและกราดเกรี้ยว เนื่องจากได้ซึมซับประสบการณ์ที่เลวร้ายจากสงครามมา

ภายหลังสงคราม ชิบะได้ถูกนำไปอยู่ในชนบทห่างไกลเพื่อฟื้นฟูสายพันธุ์พวกมันขึ้นมาใหม่ แต่เดิมชิบะมี 3 สายพันธุ์ นั่นก็คือ Shinshu Shiba, Sanin Shiba และ Mino Shiba และในทศวรรษที่ 1950 ก็ได้มีการผสมข้ามสายพันธุ์เกิดขึ้นเพื่อรักษาสายพันธุ์นี้ให้อยู่คงต่อไปจนกลายมาเป็นชิบะที่เรารู้จักกันในทุกวันนี้ นอกจากนี้ชิบะได้รับการยอมรับว่าเป็นสุนัขประจำชาติของญี่ปุ่น และได้ถูกประกาศให้เป็นสมบัติแห่งชาติในปี ค.ศ.1963 อีกด้วย

ทว่าตำนานของ Shiba Inu ไม่ได้จบลงแต่เพียงเท่านี้ เมื่อมีม Doge ที่เกิดจากสุนัขสายพันธุ์ Shiba Inu ได้โด่งดังและถูกนำไปทำเป็นสัญลักษณ์ของเหรียญ Cryptocurrency แล้ว Elon Musk ผู้ก่อตั้งบริษัท Tesla ได้ถูกใจเข้า ทำให้มูลค่าของ Dogecoin พุ่งสูงขึ้นภายในระยะเวลาช่วงข้ามคืนและเป็นอีกหนึ่งเหรียญที่น่าจับตามองและยังเป็นจุดเริ่มต้นของ “เหรียญมีม” ในวงการคริปโตที่ กลต. ไทยถึงกับต้องประกาศแบนเหรียญมีมเพื่อป้องกันการปั่นเลยทีเดียว

ด้วยกระแสที่ร้อนแรงนี้เองทำให้มีการทำเหรียญคริปโตใหม่เป็นเหรียญ Shiba ขึ้นมา โดยบุคคลนิรนามที่มีนามแฝงว่า “Ryoshi” ในเดือนตุลาคม 2564 เหรียญ Shiba มีมูลค่าเพิ่มขึ้น 1000% และสิ้นปีนี้มีโอกาสเพิ่มขึ้นถึง 10000% โดยในเดือนตุลาคมมูลค่าการซื้อขายของเหรียญ Shiba ได้แซงเหรียญ Ethereum เหรียญอันดับสองของโลกไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และเป็นหนึ่งในสิบเหรียญที่มีมูลค่ามากที่สุดของโลกอีกด้วย

ไม่ว่าจะในอดีตหรือปัจจุบัน Shiba Inu ก็ยังคงเป็นสุนัขตัวป่วนที่พร้อมจะเขย่าโลกทั้งใบให้สั่นสะเทือน สมกับเป็นตัวแทนของประเทศแห่งการสร้างสรรค์และไม่ยอมแพ้อย่างญี่ปุ่นจริงๆ