fbpx
  • Home
  • Gallery
  • Magazine
  • Story
  • Contact

readhowl

ไม่ว่าจะผ่านมากี่พันปี...แต่แมวก็คือแมว
.
ถ้านับประวัติแล้วแมวถือว่าอยู่ร่วมกับสังคมมนุษย์มาเกือบๆ หนึ่งหมื่นปีเลยทีเดียว ตั้งแต่สมัยที่มนุษย์เริ่มต้นสังคมเกษตรกรรมใหม่ๆ เรียกได้ว่าแพ้เพียงแค่สุนัขที่อยู่กับมนุษย์มาประมาณ 15000 ปีก่อนเท่านั้น 
.
แต่สุนัขกับแมวมีความแตกต่างกันอย่างใหญ่หลวง เราพบว่าสุนัขมีความเป็นสัตว์เลี้ยงเต็มตัว พวกเขาเชื่อฟังและทำงานร่วมกันกับมนุษย์ได้อย่างดี ในขณะที่แมวไม่ยอมรับฟังคำสั่ง ทำตามใจตัวเอง แถมยังมีเป็นนักล่าอีกต่างหาก
.
ทำไมถึงเป็นเช่นนั้นกันนะ
.
Wes Warren ศาสตราจารย์ด้านพันธุกรรมจากมหาวิทยาลัย Washington ได้เปรียบเทียบแผนผัง DNA ของแมวป่าและแมวบ้าน เขาพบว่า DNA ของแมวบ้านที่แตกต่างจากแมวป่ามีอยู่แค่ 3 ส่วน คือ 1. DNA ที่เกี่ยวข้องกับลักษณะและสีขน 2. DNA ที่เกี่ยวข้องกับท่าทาง 3. DNA ที่เกี่ยวข้องกับการเรียนรู้เรื่องการตอบแทนและรางวัล
.
เชื่อกันว่าแมวมาอยู่กับมนุษย์ตอนที่เริ่มมีการเพาะปลูกประมาณ 9500 ปีก่อน ด้วยการเก็บเมล็ดข้าวจำนวนมากดึงดูดให้พวกหนูเข้ามาในยุ้งฉาง ซึ่งดึงดูดนักล่าอย่างแมวมาอีกที แมวเริ่มเรียนรู้ว่าการอยู่ร่วมกับมนุษย์หาอาหารได้ง่าย มนุษย์เองก็ได้ปกป้องผลผลิตจากพวกหนูได้ด้วย ต่างฝ่ายต่างเลยพึ่งพาอาศัยกัน
.
ศาสตราจารย์ Wes Warren เชื่อว่า DNA ของแมวส่วนแรกที่เปลี่ยนไปเพื่อปรับตัวให้เข้ากับมนุษย์คือ DNA ส่วนที่ 3 ที่เกี่ยวข้องกับการเรียนรู้เรื่องการตอบแทนและรางวัล ทำให้แมวเรียนรู้ที่จะเข้าหามนุษย์เพื่อขออาหารมากขึ้น แต่อย่างไรก็ดี DNA หลักส่วนอื่นๆ ของแมวแทบไม่ได้เปลี่ยนไปเลยในระยะเวลากว่า 9000 ปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นสายตาที่มองตอนกลางคืนได้ดี ทักษะการได้ยินคลื่นความถี่ที่กว้าง หรือแม้กระทั่งความเป็นสัตว์กินเนื้อเพียงอย่างเดียว ทำให้แมวไม่ต้องพึ่งพาอาหารของมนุษย์ ไม่เหมือนกับในสุนัขที่เปลี่ยนไปจนกินได้ทั้งพืชและสัตว์
.
ดังนั้นอย่าแปลกใจถ้าพบว่าแมวไม่ได้เชื่องหรือฟังคำสั่งของมนุษย์เหมือนกับในสุนัข เพราะแมวที่เราเห็นนี้ก็ยังคงเป็นแมวที่คล้ายในสมัย 9000 ปีก่อน และอย่าลืมว่าแรกสุดนั้นมนุษย์ไม่ได้ตัดสินใจเลี้ยงพวกเขา หากแต่แมวต่างหากที่ตัดสินใจมาอยู่กับมนุษย์เอง จนบางคนถึงกับบอกว่า...แมวไม่ใช่เพื่อนรักที่สุดของมนุษย์
.
หากแต่มนุษย์ต่างหาก...ที่เป็นเพื่อนรักที่สุดของแมว
.
อ้างอิงข้อมูล
https://www.theatlantic.com/national/archive/2014/11/man-cat-dog-best-friend-pet/382740/
.
.
อ่านเรื่องอื่นๆ ได้ที่ : www.readhowl.com

#howl #cat #catlover #funfacts #knowhowl
นับแกะมันเก่าไปแล้ว ยุคนี้เราต้องนับแมวก่อนนอน
.
โฮเต็ลแห่งหนึ่งที่จังหวัดโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น มีให้บริการสุดแหวกแนวคือถ้าแขกนอนไม่หลับหรือไม่รู้จะทำอะไรก่อนนอนดี ที่นี่มีให้บริการนับน้องแมวก่อนนอนได้ด้วย
.
โฮเต็ลแห่งนี้มีชื่อว่า Neko Hatago เป็นโฮเต็ลเพิ่งเปิดใหม่เมื่อเดือนธันวาคม 2019 โดยมีจุดเด่นคือโฮเต็ลนี้สร้างติดกับคาเฟ่แมวที่มีชื่อว่า Neko Yokujo ซึ่งไอเดียการสร้างที่นี่ก็แปลกแหวกแนวมากๆ เพราะด้านห้องพักที่ติดกับฝั่งของคาเฟ่แมวนั้นเขาทำเป็นกระจกใส ทำให้สามารถเห็นแมวที่อยู่ในคาเฟ่แมวอีกฝั่งได้อย่างชัดเจน
.
ทีนี้ก็สนุกสำหรับทาสแมวเลยที่เราจะได้แอบมองเหล่าแมวจากบนเตียงนอนนุ่มๆ ของเราได้สบายๆ จะนอนจ้องตาแมวหรือจะนอนนับแมวก่อนนอนก็ไม่มีปัญหา และที่สำคัญคือคาเฟ่แมว Neko Yokujo เป็นคาเฟ่แมวที่มีจุดประสงค์เพื่อช่วยหาบ้านให้แมวจรจัดอีกด้วย ดังนั้นถ้าเกิดว่านอนๆ ไปแล้วรู้สึกถูกชะตาแมวตัวไหน วันรุ่งขึ้นก็สามารถไปติดต่อทางคาเฟ่เพื่อขอรับไปเลี้ยงได้
.
Naomi Nishikubo ผู้จัดการโฮเต็ลแห่งนี้ได้ให้สัมภาษณ์ว่า โฮเต็ลแห่งนี้มุ่งหวังให้แขกได้รู้จักกับเหล่าแมวในสถานพักพิงมากขึ้น รวมไปถึงสังเกตพฤติกรรมแมวแบบต่างๆ ในตอนกลางคืนอย่างที่ไม่ค่อยได้เห็นได้
.
โฮเต็ล Neko Hotago ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่วิกฤติ COVID-19 ก็ทำให้ยอดเข้าพักลดลงไปกว่าครึ่ง แต่อย่างไรก็ดีที่นี่ก็ยังมีผู้สนใจขอเข้าพักอยู่เป็นประจำ บางครั้งก็จากคนในละแวกใกล้ๆ 
.
บางทีอาจเพราะการได้นับแมวหรือนอนจ้องตาพวกเขาอาจเป็นทางหนึ่งที่ช่วยทำให้เราผ่อนคลาย หรือกระทั่งได้วางเรื่องหนักๆ ลงบ้าง แม้เพียงคืนเดียวก็ตาม
.
อ้างอิงข้อมูล
https://www.japantimes.co.jp/life/2020/09/10/travel/cat-hostel-osaka/
.
.
อ่านเรื่องอื่นๆ ได้ที่ : www.readhowl.com

#howl #cat #catlover #funfacts #knowhowl
ซอมบี้ธรรมดาหลบไป...เพราะนี่คือโลกของซอมบี้เหมียวยังไงล่ะ
.
ต้องบอกว่าในยุคนี้ทั้งภาพยนตร์ ซีรีย์ หรือกระทั่งการ์ตูนสไตล์คนกลายเป็นซอมบี้ล้างโลกนั้นกำลังมาแรงจัดๆ ดูอย่างใน NetFlix ก็ได้ว่าซีรีย์ติดอันดับท็อปๆ ต้องมีซักเรื่องที่เกี่ยวข้องกับซอมบี้แน่ๆ อย่างเร็วๆ นี้ก็มีเรื่อง Sweet Home หรือ Train to Busan ที่กลับมาฉายทางสตรีมมิ่งอีกครั้ง ก็ได้ครับความนิยมอย่างล้นหลาม
.
แต่คราวนี้เราไม่ได้มาแนะนำหนังที่คนติดเชื้อกลายเป็นซอมบี้แต่อย่างใด หากแต่เป็นเรื่องของคนที่ติดเชื้อแล้วกลายเป็นแมวต่างหากล่ะ
.
ใช่แล้ว คุณอ่านไม่ผิด นี่คือเรื่องราวของหนังสือการ์ตูนญี่ปุ่น (มังงะ) เรื่อง Nyaight of the Living Cat การ์ตูนสุดแหวกแนวว่าด้วยโลกที่มนุษยชาติล่มสลายไปแล้วเพราะว่าอยู่ดีๆ ก็เกิดเหตุการณ์ประหลาดที่อยู่ดีๆ ก็มีไวรัสเปลี่ยนคนก็กลายเป็นแมว แถมเมื่อแมวเหล่านั้นไปสัมผัส ไปน้วยมนุษย์คนอื่น คนพวกนั้นก็จะกลายเป็นแมวตามไปด้วยอีก ทำให้ทั้งโลกกำลังถูกยึดครองโดยเหล่าแมวในไม่ช้า
.
จริงๆ การ์ตูนเรื่องนี้ออกแนวจะเป็นเรื่องตลกร้ายแถมยังบ้าๆ บอๆ เพราะแม้สถานการณ์จะดูซีเรียส ที่มนุษย์จำนวนมากกลายเป็นแมวไปหมดแล้ว แต่เหล่าตัวเอกที่พยายามเอาชีวิตรอดไม่ให้ตัวเองกลายเป็นแมวก็ยังมีความเป็นทาสแมวอย่างลึกซึ้ง เช่น เจอฝูงแมวพุ่งตรงมาก็ต้องพยายามหักห้ามใจไม่ไปเล่นอย่างสุดชีวิต หรือเวลาต่อสู้กับแมวก็ไม่ได้มีฉากเหี้ยมโหดอะไรเพราะว่าพวกเขาใช้ที่ฉีดน้ำไล่แมว (เอากับเขาสิ) หรือมีฉากเล่นมุกตลกซีเรียนสกับความสามารถของแมวตอนที่ตัวเอกหลบอยู่ในตึก แต่ที่กำแพงตึกมีรอยแตกเล็กๆ แต่แมวก็ไหลตัวราวกับของเหลวลอดเข้ามาได้ เป็นต้น
.
มังงะเรื่อง Nyaight of the Living Cat แต่งเรื่องโดย Hawkman และวาดโดย Mecha-Roots ตีพิมพ์ในนิตยสารการ์ตูนรายเดือน Monthly Comic Garden ตอนนี้มีทั้งหมด 3 ตอน เราเองก็อยากรู้เหมือนกันว่าสุดท้ายแล้วเรื่องนี้จะจบยังไงกันแน่
.
มีนักอ่านบางคนบอกว่าเชื้อไวรัสนี้ไร้สมองมากๆ เพราะถ้ากลายเป็นแมวกันไปหมดแล้ว จะหามนุษย์ที่ไหนมาคอยรับใช้เหล่าแมว ใครจะเป็นคนตักทรายแมวไปทิ้ง ใครจะเป็นคนหาขนมแมวเลียมาให้ เรียกได้ว่าเป็นไวรัสที่ทำลายตัวเองโดยแท้
.
แต่มานั่งคิดๆ ดูแล้ว กลายเป็นแมวก็น่าจะดีเหมือนกันนะ มนุษยชาติล่มสลายก็ไม่เป็นไร ขอเพียงแค่เหล่าแมวยืนยง
.
แย่แล้วสิ....ดูท่าทางเราเอง....ก็ถูกไวรัสเหมียวนี่เข้าให้แล้วแน่ๆ เลย
.
อ้างอิงข้อมูล

https://magcomi.com/episode/13933686331715261669
.
อ่านเรื่องอื่นๆ ได้ที่ : www.readhowl.com

#howl #cat #catlover #funfacts #knowhowl
เมื่อการทำความสะอาดช่องปากน้องแมวไม่ได้มีแค่การแปรงฟัน !!! 
.
เรารู้ โลกรู้ แฟนคลับรู้ แปรงฟันน้องแมวมันเป็นเรื่องสุดหิน!! ถ้าใครสามารถทำได้เราขอปรบมือ อย่างไรก็ตามการแปรงฟันก็ยังเป็นการดูแลสุขภาพช่องปากที่บ้านที่ดีที่สุด แต่ถ้ามันจะยากขนาดนี้เราขอแนะนำวิธีการทำความสะอาดช่องปากแบบใหม่ที่ง่าย สะดวก และยังช่วยลดกลิ่นปากได้อย่างดีอีกด้วย 
.
ใหม่! Aquadent FR3SH ผลิตภัณฑ์ผสมน้ำดื่มสำหรับสัตว์เลี้ยง ช่วยขจัดคราบฟัน ลดแบคทีเรียในช่องปาก ช่วยให้ปากหอมเย็นสะอาด 

#ง่ายๆแค่ผสมน้ำ!
#virbac #virbacthailand #AquadentFR3SH #DentalExpert  #HowlxVirbac #HowlReview
กระทั่งอาชีพพนักงานต้อนรับในโรงแรมก็ถูกแมวยึดครองไปแล้ว
.
แม้ว่าผลกระทบจาก COVID-19 จะทำให้ธุรกิจการท่องเที่ยวเงียบเหงาไปพอสมควร แต่เชื่อกันว่าหลังจากมีการฉีดวัคซีนในวงกว้างภายในปีนี้สำเร็จนั้น ธุรกิจการบินและการท่องเที่ยวน่าจะค่อยๆ กลับมาฟื้นคืนได้ภายในปี 2022 – 2033
.
ในช่วงนี้ โรงแรมต่างๆ จึงงัดกลยุทธมาเพื่อพิชิตใจนักท่องเที่ยวภายในประเทศ ซึ่งหนึ่งในนั้นและเป็นเทรนด์ที่แบรนด์โรงแรมหรูหลายแห่งทั่วโลกกำลังฮิตคือการใช้แมวเป็นพนักงานต้อนรับนั่นเอง
แมวที่ถูกนำมาเป็นพนักงานต้อนรับหรือแม้กระทั่งเป็น Brand Ambassador นั้น จะถูกฝึกมาอย่างดี เพื่อให้นักท่องเที่ยวที่เข้ามาใช้บริการประทับใจตั้งแต่แรกเห็น รวมไปถึงสร้างบรรยากาศผ่อนคลาย สบายๆ เป็นมิตรเหมือนกับอยู่บ้านให้กับทางโรงแรมอีกด้วย
.
โรงแรมดังที่ใช้แมวมาเป็นพนักงานต้อนรับมีอยู่ทั่วโลก ตัวอย่างเช่น โรงแรม Lanesborough ที่ลอนดอน ประเทศอังกฤษ ได้เลือกแมวสายพันธุ์ Siberian ชื่อ Lilibet มาเป็นพนักงานต้อนรับ ที่ทางโรงแรมเลือกสายพันธุ์นี้เพราะว่าเป็นสายพันธุ์ที่สร้างภาวะภูมิแพ้ต่ำ ทำให้ไม่เกิดปัญหากับคนที่แพ้ขนแมวเท่าไรนัก
.
ด้วยความสำเร็จของ Lilibet ทำให้เครือโรงแรมหรู 5 ดาวของยุโรปอย่าง Oetker Collection Properties ก็เอาไปใช้บ้าง โดยได้เปิดตัวแมวสายพันธุ์ Burmese 2 ตัว ชื่อว่า Fa-Raon และ Kléopatre ซึ่งทางโรงแรมบอกว่าการมีแมวอยู่ที่โซนต้อนรับทำให้บรรยากาศโดยรวมดีขึ้นมาก และแขกก็ชอบทักทายเหล่าแมวๆ อีกด้วย
.
ที่ประเทศไทยก็มีการใช้แมวเป็นพนักงานต้อนรับเช่นกัน ที่เกาะยาวน้อย จังหวัดภูเก็ต มีรีสอร์ทแห่งหนึ่งชื่อว่าใจเย็นรีสอร์ท ซึ่งเป็นรีสอร์ทสไตล์เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ที่นี่มีแมวเป็นพนักงานต้อนรับอยู่ 4 ตัว คือ มีอา คิง ฟู และลูน่า ซึ่งมีตำแหน่งเป็น “ผู้จัดการรีสอร์ท” ทำหน้าที่คอยดูแลและต้อนรับแขกอย่างขยันขันแข็ง
.
นอกจากแมวแล้ว ความนิยมการใช้สุนัขเป็นพนักงานต้อนรับก็มีไม่น้อยเช่นกัน และเทรนด์การใช้สัตว์เป็นพนักงานต้อนรับหรือเป็นส่วนหนึ่งของการต้อนรับในโรงแรมน่าจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ อาจเพราะความน่ารักและความเป็นมิตรของพวกเขาทำให้เป็นที่ประทับใจต่อนักท่องเที่ยวมากๆ
เรียกได้ว่าบริการทุกระดับประทับใจจริงๆ
.
ที่สำคัญถ้าได้ทิปเป็นขนมแมวเลียหนึ่งแผล็บจะดีมากเลยนะ...มนุษย์
.
อ้างอิงข้อมูล

https://www.scmp.com/lifestyle/travel-leisure/article/3114192/dog-and-cat-ambassadors-luxury-hotels-and-resorts-make
.
อ่านเรื่องอื่นๆ ได้ที่ : www.readhowl.com

#howl #cat #catlover #funfacts #knowhowl
พวกมนุษย์น่ะ...คิดมากเกินไปนะ
.
แมวไม่ได้พูดแบบนี้ แต่ John Gray นักปรัชญาชาวอังกฤษคิดว่าถ้าแมวพูดได้ก็คงพูดแบบนี้กับเรา เขาเป็นนักปรัชญาสายเสรีนิยมที่โด่งดังมาตั้งแต่สมัยหลังจบสงครามโลกครั้งที่สอง ความเห็นและงานเขียนของเขานั้นเฉียบคมและเป็นที่รู้จักกันในวงการ ล่าสุดเขาได้เขียนหนังสือ Feline Philosophy – Cat and the Meaning of Life หรือปรัชญาภาษาแมว – ว่าด้วยแมวและความหมายของชีวิต
.
มาดูกันดีกว่าว่าในความเห็นของนักปรัชญานั้น มนุษยชาติควรเรียนรู้อะไรจากแมวบ้าง
แนวคิดของ John Gray บอกว่ามนุษย์นั้นใส่ใจตัวเองมากเกินไป โดยเฉพาะเรื่องการตระหนักรู้ถึงตัวตนของตัวเอง เพราะมนุษย์ตระหนักถึงตัวเราเองทำให้เราคิดว่าตัวเองพิเศษ เป็นผู้ครอบครองสิ่งรอบตัว และพยายามเพื่อค้นหาความหมายต่างๆ ด้วยเหตุนี้เองทำให้เราเกิดข้อขัดแย้งกัน สุดท้ายก็กลายเป็นสงครามและความสูญเสียอันน่าเศร้า
.
เขาชี้ให้เห็นว่าแมวไม่เห็นมีอะไรแบบนี้เลย แมวไม่ได้พยายามที่จะบอกว่าตัวเองเป็นสิ่งมีชีวิตที่พิเศษ ไม่ได้พยายามหาค้นหาความหมายอะไร สิ่งที่แมวทำนอกจากการกิน ล่าเหยื่อ ผสมพันธุ์ หรือเล่นกันแล้ว พวกมันก็นอน สิ่งที่มนุษย์ควรเรียนรู้จากแมวคือสิ่งนี้ ยิ่งเรายึดติดกับกรอบต่างๆ ในสังคม หรือยึดติดกับแนวคิดอุดมคติต่างๆ ยิ่งทำให้เราคิดมากและไม่มีความสุข ถึงเวลาที่เราต้องทำตัวแบบแมวและปล่อยภาระที่แบกอยู่บนบ่าของความเป็นมนุษย์ลงบ้างแล้ว
.
John Gray เขียนหนังสือเล่มนี้ขึ้นมาจากการเฝ้าสังเกตแมวทั้ง 4 ตัวในบ้านของเขา ซึ่งตัวหนึ่งชื่อว่า Julian มีอายุมากถึง 23 ปีเลยทีเดียว เขาเชื่อว่าในที่สุดแล้วมนุษย์คงไม่สามารถเข้าใจแมวได้ทั้งหมด แต่เขาก็จะพยายามเข้าใจแมวให้ได้มากขึ้นกว่านี้และเขาก็ยังเชื่อด้วยว่าถ้าแมวรู้ว่ามนุษย์ต่างพยายามตามหาความหมายของชีวิตอยู่นั้น พวกมันก็คงครางแล้วบอกว่าช่างไร้สาระเสียจริงๆ
.
แน่นอนว่าเราคงไม่สามารถเห็นด้วยกับ John Gray ไปเสียทั้งหมด เพราะไม่แบบนั้นแล้วสังคมคงไม่ได้เกิดความก้าวหน้าอะไรขึ้นมา แต่ถึงกระนั้นในบางแง่ หนังสือเล่มนี้ก็อาจช่วยให้เรากลับมามองย้อนดูตัวเอง พร้อมทบทวนความหมายในชีวิตใหม่อีกครั้งว่าเราเผลอทำให้อะไรตึงมากไปหรือเปล่า บางทีชีวิตอาจจะไม่จำเป็นต้องตึงขนาดนั้น
.
บางทีมีชีวิตอยู่เพื่อหาเงินค่าอาหารเลี้ยงดูน้องแมว....ก็อาจจะถือเป็นความหมายในชีวิตได้เหมือนกัน
และคงเป็นความหมายที่แมวต้องบอกว่าไม่ใช่เรื่องไร้สาระอย่างแน่นอน
.
อ่านเรื่องอื่นๆ ได้ที่ : www.readhowl.com

#howl #cat #catlover #funfacts #knowhowl
ถึงเวลาที่แมวจะกลับมายึดครองทำเนียบขาวอีกครั้งแล้ว !
.
เป็นธรรมเนียมมานานแล้วว่าบุคคลผู้ได้เป็นประธานาธิบดีสหรัฐนั้น ภรรยาจะได้เป็นสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง (First Lady) และสัตว์เลี้ยงของประธานาธิบดีสหรัฐนั้นก็จะสามารถมีสิทธิเข้ามาในทำเนียบขาวได้
.
โดยปกติแล้วสัตว์เลี้ยงของประธานาธิบดีมักเป็นสุนัข ซึ่งมีมาอย่างยาวนาน จนกระทั่งขาดช่วงไปในยุคของประธานาธิบดี Donald Trump ซึ่งไม่เลี้ยงสัตว์เลยเพราะบอกว่าตัวเองไม่มีเวลาดูแล แต่เมื่อถึงยุคของ Joe Biden ที่กำลังจะเป็นประธานาธิบดีคนที่ 46 นี้ เป็นที่ยืนยันแน่นอนแล้วว่าจะมีน้องหมาสายพันธุ์ German Shepherd 2 ตัว นามว่า Champ และ Major มาที่ทำเนียบขาวอย่างแน่นอน 
แต่ที่น่าตื่นเต้นกว่านั้นคืออาจจะมีแมวในทำเนียบขาวครั้งแรกในรอบกว่า 10 ปีด้วยก็ได้
.
Jill Biden สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งได้เอ่ยเป็นนัยๆ เกี่ยวกับแมวตอนที่สัมภาษณ์กับนักข่าวเอาไว้ว่าถ้า Joe Biden ชนะการเลือกตั้ง เธออาจจะเลี้ยงแมวเพิ่ม เพราะเธอรักสัตว์และชอบให้มีสัตว์อยู่รอบๆ ตัว
.
แมวชุดแรกในทำเนียบขาวนั้นเป็นของ Abraham Lincoln โดยเป็นแมว 2 ตัว ชื่อว่า Tabby และ Dixie ลินคอล์นยังเคยพูดชมแมวกับเพื่อนของเขาเล่นๆ ว่า แมว 2 ตัวนี้ฉลาดกว่าคณะรัฐมนตรีของเขาหมดทุกคนแถมยังไม่พูดมากอีกต่างหาก
.
นอกจากแมวของ Abraham Lincoln แล้ว ยังมี Tom Kitten แมวของ Caroline Kennedy ลูกสาวของท่านประธานาธิบดี John F. Kennedy ตามมาด้วย Shan Shein แมววิเชียรมาศของ Susan ลูกสาวของประธานาธิบดี Gerald Ford รวมไปถึง Misty Malarky Ying Yang แมวชื่อยาวของ Amy ลูกสาวของประธานาธิบดี Jimmy Carter
.
แต่แมวในทำเนียบขาวที่โด่งดังที่สุด คือ Sock แมวสีขาวดำสุดน่ารักของประธานาธิบดี Bill Clinton ซึ่งได้รับความสนใจจากสื่อมวลชนอยู่เสมอจนกระทั่งได้ทำเป็นตัวการ์ตูนในเว็บไซต์ให้ความรู้เกี่ยวกับทำเนียบขาวสำหรับเด็กอีกด้วย
.
นักวิเคราะห์กล่าวว่าการมีสัตว์เลี้ยงไม่ว่าจะสุนัขหรือแมว ทำให้ภาพลักษณ์ของประธานาธิบดีสหรัฐดูอ่อนโยนและเป็นมิตรมากขึ้น ส่วนการที่ Joe Biden วางแผนว่าจะเลี้ยงแมวที่ทำเนียบขาวนอกจากสุนัขด้วยนั้น อาจจะเป็นการสื่อถึงว่าเขาอยากจะรวมประเทศสหรัฐอเมริกาให้กลับมาเป็นหนึ่งเดียวกันอีกครั้ง ซึ่งก็นับว่าน่าสนใจว่าเขาจะทำได้หรือไม่
.
ถ้าเหล่าแมวไม่ยึดทำเนียบขาวสำเร็จและครองโลกไปเสียก่อนน่ะนะ
.
อ้างอิงข้อมูล
https://www.nytimes.com/2020/11/28/us/Biden-cat-dogs-German-shepherd.html
.
อ่านเรื่องอื่นๆ ได้ที่ : www.readhowl.com

#howl #cat #catlover #funfacts #knowhowl
ถ้าคุณพาสุนัขเดินเล่น โทษสูงสุดคือน้องหมาจะถูกประหารชีวิต
.
ว่าที่กฏหมายสุดโหดนี้เป็นของประเทศจีน ซึ่งเกิดขึ้นจากการที่มีปํญหาความขัดแย้งระหว่างคนเลี้ยงสุนัขกับประชาชนทั่วไป เพราะมีสุนัขที่มีเจ้าของไปกัดคนอื่นเกิดขึ้นค่อนข้างมาก เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อยสไตล์รัฐบาลจีนจึงสั่งให้สุนัขทุกตัวควรอยู่แต่ในบ้าน หากถูกจับได้ว่าเจ้าของพาออกมาเดินเล่น ครั้งแรกจะถูกเตือน ครั้งที่สองจะถูกปรับ และถ้ายังฝ่าฝืนถึงครั้งที่สามสุนัขจะถูกประหารชีวิต
.
กฎหมายนี้วางแผนว่าจะถูกบังคับใช้ที่เขต Weixin มณฑล Yunnan แต่เมื่อถูกประกาศออกไปก็ถูกต่อต้านอย่างหนักจากทั่วประเทศทันที พร้อมกับความโกรธเกรี้ยวที่ประทุขึ้นอย่างมากในโลกออนไลน์ ชาวจีนจำนวนมากคอมเมนต์ว่ากฎหมายนี้ไม่มีความเป็นมนุษย์ สุนัขไม่ควรถูกลงโทษจากสิ่งที่มนุษย์ทำ รวมไปถึงวิจารณ์ว่าระเบียบกฏหมายของทางเขต Weixin ควรที่จะมีความเป็นมนุษย์มากกว่านี้
.
ภายหลังเจอแรงต้านอย่างหนัก ทางการจีนก็ได้ยอมถอยโดยถอนกฏหมายนี้ออกจากการพิจารณา ทำให้กฏหมายนี้จึงยังไม่ถูกบังคับใช้จริง แต่ในเมืองอื่นๆ ของจีนนั้นก็มีการควบคุมเกี่ยวกับการเลี้ยงสุนัขอย่างเข้มงวด บางเมืองใหญ่มีการกำหนดขนาด จำนวน และชนิดของพันธุ์สุนัขที่จะเลี้ยงได้ 
ดังเช่นในปักกิ่ง แต่ละบ้านกำหนดให้เลี้ยงสุนัขได้แค่บ้านละ 1 ตัวเท่านั้น โดยสุนัขนั้นต้องยืนสี่ขาแล้วสูงไม่เกินกว่า 35 ซม. เจ้าของไม่สามารถพาสุนัขไปเดินเล่นในสวนสาธารณะได้ และใครที่ฝ่าฝืนก็จะถูกปรับเป็นเงินกว่า 5000 หยวน
.
ในขณะที่เมือง Shenzhen มีกฏกำหนดความยาวสายจูง โดยเฉพาะในสุนัขพันธุ์กลางจะต้องมีสายจูงที่สั้นเพื่อความปลอดภัย ส่วนทางเมือง Harbin กำหนดสายพันธุ์สุนัขที่ห้ามเลี้ยง เช่น Bulldog, German Shepherd หรือ Alaskan Malamute
.
ด้วยความที่เศรษฐกิจจีนได้เฟื่องฟูมากในช่วง 10 ปีหลังมานี้ ทำให้มีประชาชนมีความต้องการอยากเลี้ยงสัตว์มากขึ้นด้วย โดยเฉพาะสุนัข ซึ่งส่งผลให้เกิดการถกเถียงถึงเรื่องสวัสดิภาพสัตว์ต่างๆ ซึ่งเหล่าคนเลี้ยงสุนัขในประเทศจีนต่างก็พยายามต่อสู้เพื่อปกป้องสิทธิในการเลี้ยงสุนัขอย่างมีคุณภาพกับสังคมอนุรักษ์นิยมจากทางรัฐบาลจีนที่ตอนนี้ยังไม่เปิดกว้างเรื่องนี้เท่าใดนัก
.
อ้างอิงข้อมูล

https://www.scmp.com/lifestyle/family-relationships/article/3110506/three-strikes-and-youre-out-law-pets-kill-policy
.
อ่านเรื่องอื่นๆ ได้ที่ : www.readhowl.com

#howl #dog #doglover #funfacts #knowhowl
เชื่อหรือไม่ว่าน้องหมาอึก็สามารถบอกทิศทางได้
.
นักวิทยาศาสตร์ต่างทราบกันมานานแล้วว่าในสัตว์หลายชนิดสามารถรับรู้ถึงสนามแม่เหล็กโลกและใช้ความสามารถนี้เป็นดั่งเข็มทิศเพื่อนำทางได้ แต่สำหรับในน้องหมานี้ ยังคงเป็นที่ถกเถียงกันว่าสามารถรับรู้ถึงสนามแม่เหล็กโลกได้ด้วยหรือเปล่า แต่ทว่างานวิจัยเมื่อเร็วๆ นี้อาจจะพบว่าสุนัขเองก็มีความสามารถนี้ด้วยเหมือนกัน และที่น่าสนุกคือทีมนักวิจัยรู้ได้จากการศึกษาทิศทางการหันหน้าตอนที่สุนัขกำลังอึ
.
งานวิจัยชิ้นนี้เป็นการร่วมมือกันของทีมนักวิทยาศาสตร์ 12 คน ทั้งจากมหาวิทยาลัยจากเยอรมันนีและสาธารณรัฐเช็ก โดยมีสุนัขเข้าทดลองกว่า 37 สายพันธุ์ และเก็บข้อมูลการขับถ่ายเป็นเวลากว่า 2 ปี
.
ผลลัพธ์การวิจัยนับว่าน่าทึ่ง เมื่อพบว่าตอนที่สุนัขกำลังขับถ่าย ไม่ว่าจะอุจจาระหรือปัสสาวะ จะหันหน้าไปทางทิศเหนือหรือใกล้เคียงเสมอ แสดงให้เห็นถึงการวางตัวตามทิศเหนือ-ใต้ตามสนามแม่เหล็กโลก แต่พฤติกรรมนี้จะแสดงออกมาเมื่อสุนัขอยู่ในพื้นที่โล่งกว้างและไม่ได้ใส่สายจูงเท่านั้น ถ้าสุนัขอยู่ในพื้นที่ปิด เช่น ในห้อง หรือถูกจับบังคับต่างๆ ก็จะขับถ่ายโดยไม่สนใจทิศทางแทน
.
ในเบื้องต้นงานวิจัยชิ้นนี้ทำให้เราพอจะทราบได้ในเบื้องต้นว่าสุนัขมีความสามารถในการรับรู้พลังสนามแม่เหล็กโลกได้ เช่นเดียวกับในวัว สุนัขจิ้งจอกแดง และสุนัขป่าโคโยตี้ แต่อย่างไรก็ดียังคงมีเรื่องที่ต้องศึกษายืนยันต่อ และที่น่าสนใจไปกว่านั้นมีบางคนสงสัยว่าถ้าสนามแม่เหล็กโลกเปลี่ยนไปนั้นจะส่งผลกระทบต่อสุนัขอย่างไรบ้าง
.
เพื่อนๆ คนไหนที่เลี้ยงน้องหมา ถ้ามีโอกาสก็ลองพิสูจน์ดูกันได้ว่าเวลาขับถ่าย น้องหมาของเราจะหันหน้าไปทางทิศเหนือจริงหรือไม่
.
มาดูกันว่าน้องหมาในเมืองไทยจะมีความสามารถแบบเดียวกันกับเหล่าน้องหมาที่ทำการทดลองหรือเปล่านะ
.
อ้างอิงข้อมูล
.
Dogs defecate in accordance with earth's magnetic field, research finds : https://www.theguardian.com/news/datablog/2014/jan/08/dogs-defecate-earths-magnetic-field-research-finds
.
อ่านงานวิจัยตัวเต็มได้ที่
https://frontiersinzoology.biomedcentral.com/track/pdf/10.1186/1742-9994-10-80.pdf
.
อ่านเรื่องอื่นๆ ได้ที่ : www.readhowl.com

#howl #dog #doglover #funfacts #knowhowl
เชื่อหรือไม่ว่าตอนนี้ Tibetan Mastiff นับแสนตัวกำลังกลายเป็นฝูงสุนัขจรจัดที่คุกคามทั้งชุมชนและเหล่าสัตว์ป่าในทิเบต เพราะสุนัขพันธุ์นี้ได้ชื่อว่าเป็นสุนัขที่มีนิสัยดุ อีกทั้งยังตัวใหญ่ อยู่รวมกันเป็นฝูง ทำให้พวกมันน่ากลัวมากๆ
.
สาเหตุที่มี Tibetan Mastiff จรจัดจำนวนมากขนาดนี้นั้นเกิดขึ้นจากในช่วงปี 2005 – 2010 เศรษฐกิจของประเทศจีนกำลังเติบโตมาก ทำให้มีความต้องการเลี้ยงสุนัขพันธุ์นี้เพราะว่าช่วยเสริมบารมี เคยมีลูกสุนัขสายเลือดแท้และมีขนสีทองถูกซื้อขายกันในราคาสูงถึงตัวละกว่า 54 ล้านบาท
.
ด้วยเหตุนี้เองจึงฟาร์มสุนัข Tibetan Mastiff บูมขึ้นทันทีทิเบต แต่อย่างไรก็ดีด้วยความที่สุนัขพันธุ์นี้เลี้ยงยากมาก แถมยังนิสัยค่อนข้างดุ ทำให้ความนิยมในการเลี้ยงค่อยๆ ลดลงเรื่อยๆ และคนที่เลี้ยงไม่ไหวเอาสุนัขมาปล่อยก็มีไม่น้อย ส่งผลให้ราคาของสุนัขพันธุ์นี้ลดลง จนในปี ค.ศ. 2015 เหลืออยู่แค่ประมาณ 45000 บาทต่อตัว และจาก 3000 ฟาร์ม ก็ปิดกิจการไปแล้วกว่า 2000 ฟาร์ม
.
ชะตากรรมของเหล่า Tibetan Mastiff ที่ฟาร์มเลี้ยงไม่ไหวก็มีอยู่ 2 แบบ คือ ปล่อยไปเป็นสุนัขจรจัดเพราะทนราคาค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงไม่ไหว เนื่องจากสุนัขพันธุ์นี้กินเยอะมาก หรือไม่ก็นำไปขายเป็นเนื้อสุนัขในตลาดจีนบางแห่งที่ยังนิยมบริโภคเนื้อสุนัข
.
จากการสำรวจพบว่าสุนัขจรจัดในทิเบตประมาณ 160000 ตัว โดยกว่า 97% เป็นสายเลือดสุนัข Tibetan Mastiff ด้วยความที่พวกมันเป็นนักล่าโดยสายเลือดอยู่แล้ว เมื่ออยู่รวมกันเป็นฝูงพวกมันจึงแทบไม่มีใครต่อกรด้วยได้เลย พวกมันคุกคามเสือดาวหิมะและหมี รวมไปถึงชาวทิเบตถูกทำร้ายหลายรายมาก
.
สถานการณ์ของเหล่า Tibetan Mastiff ในทิเบตเรียกได้ว่าน่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง ในตอนนี้มีสมาคมช่วยเหลือสัตว์และอาสาสมัครกำลังงระดมทีมช่วยเหลือเพื่อดูแลปัญหานี้ ทั้งความพยายามในการฉีดวัคซีนและทำหมัน แต่ก็ยังไม่ประสบความสำเร็จมากนัก เนื่องจากการสภาพพื้นที่ที่เข้าถึงยากและความดุร้ายของเหล่าสุนัข
.
เรื่องนี้เป็นอีกครั้งที่เราต้องกลับมาทบทวนตัวเองอีกครั้งว่าเรารู้จักสุนัขที่คิดจะเลี้ยงดีแล้วหรือยัง เพราะสุนัขบางพันธุ์นั้นจำเป็นต้องได้รับการดูแลเอาใจใส่มากเป็นพิเศษ รวมไปถึงสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม พวกเขาไม่ใช่ตุ๊กตาขนฟูน่ารัก หากแต่มีชีวิตจิตใจไม่ต่างจากเรา
.
ที่น่าเศร้าคือสุนัขไม่ได้ผิดเลย....แต่พวกเขาก็ต้องรับผลกระทบอันน่าเศร้าที่เกิดจากพวกเราด้วยเช่นกัน
.
เครดิตรูปภาพ : Pu Xiaoxu/Visual China Group via Getty Images
.
อ่านเรื่องอื่นๆ ได้ที่ : www.readhowl.com

#howl #dog #doglover #funfacts #knowhowl
เมื่อน้องหมาแมวไม่ต้องไร้บ้านอีกต่อไป
.
ปัญหาสุนัขและแมวจรจัดในประเทศไทยเป็นหนึ่งในปัญหาที่คาราคาซังมาตลอด ด้วยทั้งปัญหาทั้งทางภาคสังคมและการปฏิบัติงานจากภาครัฐ โดยข้อมูลจากกรมปศุสัตว์ เมื่อปลายปี พ.ศ. 2562 ระบุว่ามีสุนัขจรจัดประมาณ 2.6 ล้านตัว แมวจรจัดประมาณ 1 ล้านตัว รวมทั่วประเทศแล้วสูงถึงประมาณ 3.6 ล้านตัว เลยทีเดียว
.
ดังนั้นจะดีซักแค่ไหนถ้าน้องหมาน้องแมวทุกตัวมีบ้านอยู่
.
ด้วยเหตุนี้เอง น้องๆ นิสิต คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เลยตัดสินใจทำโปรเจกต์จบแหวกแนวเป็นเว็บไซต์สื่อกลางช่วยหาบ้านให้กับสุนัขและแมวจรจัดที่ยังไม่มีบ้านอยู่ แต่ด้วยความที่เรียนทางด้านสัตวแพทย์มา ทำให้เหล่านิสิตจึงต้องศึกษาทั้งการทำเว็บไซต์และการเขียนโปรแกรมกันตั้งแต่ศูนย์ โดยร่วมมือกับทางโปรแกรมเมอร์คณะอื่นๆ จนในที่สุดก็สามารถทำเว็บไซต์ขึ้นมาได้สำเร็จ
.
เว็บไซต์ของน้องๆ กลุ่มนี้มีชื่อว่า RightBaan.com เป็นการเล่นคำพ้องเสียงกับคำว่า “ไร้บ้าน” เพื่อสื่อถึงการตามหาบ้านที่ใช่ (Right) ให้กับสัตว์จรจัด การทำงานของเว็บไซต์นี้จะเป็นสื่อกลางระหว่างผู้ที่สนใจอยากรับเลี้ยงสุนัขและแมวจรจัดแต่ไม่รู้ว่าต้องติดต่อทางไหนดี กับทางสถานพักพิงที่อยากหาบ้านให้กับเหล่าสัตว์เลี้ยง 
.
โดยในช่วงทดสอบช่วงแรกนี้ สถานพักพิงที่ร่วมโครงการด้วยทั้งหมด 4 แห่ง คือ ชมรมสวัสดิภาพสัตว์ คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (เพจ JohnJud), Soi dog Thailand, WVS Care For Dogs และโครงการหาบ้านใหม่ให้สุนัขจรจัด คณะเทคนิคสัตว์แพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
.
โดยทางเว็บไซต์ RightBaan จะนำเหล่าน้องหมาน้องแมวจากศูนย์พักพิงที่ร่วมโครงการ มานำเสนอเป็นโปรไฟล์ต่างๆ ที่น่าสนใจ พร้อมทั้งแบ่งแยกประเภท เช่น เพศ อายุ ขนาด เป็นต้น เพื่อให้ง่ายต่อการค้นหาของผู้ใช้ รวมไปถึงยังมี feature กดถูกใจเพื่อเก็บสัตว์จรจัดที่สนใจไว้ในบัญชีที่ได้สมัครกับทางเว็บอีกด้วย 
.
สำหรับผู้ที่การช่วยเหลือผ่านทางการบริจาค ทางทีมพัฒนาจึงได้รวบรวมบัญชีของสถานพักพิงที่เข้าร่วมโครงการ เพื่อให้ผู้ใช้ได้ช่วยเหลือสัตว์จรจัดภายในสถานพักพิงได้โดยตรงอีกด้วย
.
ในอนาคตทางทีมพัฒนากำลังวางแผนร่วมมือกับสถานพักพิงที่ต่างๆ มากขึ้น เพื่อเพิ่มโอกาสให้เหล่าน้องๆ มีบ้านที่อบอุ่นอยู่ได้มากขึ้นอีก
.
มาทำให้น้องหมาน้องแมวที่ไร้บ้าน....มาเจอบ้านที่ Right จริงๆ ด้วยกันนะ
.
ชมเว็บไซต์ของทีม RightBaan ได้ที่ : www.rightbaan.com
แฟนเพจ : https://www.facebook.com/rightbaan
.
อ่านเรื่องอื่นๆ ได้ที่ : www.readhowl.com

#howl #cat #catlover #funfacts #dog #doglover #knowhowl
คริสต์มาสทั้งที ต้องจัดเต็มหน่อยแล้ว
.
การประดับต้นคริสต์มาสถือเป็นกิจกรรมหนึ่งที่ทำให้ครอบครัวได้อยู่ด้วยกัน ถึงจะไม่ใช่วัฒนธรรมไทยแท้ๆ ก็ตาม แต่คริสมาสต์ก็ถือเป็นวัฒนธรรมสากลไปแล้ว การที่เราจะมาสนุกกันบ้างก็ไม่ได้ผิดอะไร และที่สำคัญการได้ออกไปซื้ออุปกรณ์ตกแต่งต้นคริสมาสต์แล้วลงมานั่งจัดเองก็เพลินไม่เบาอีกด้วย
.
อย่างไรก็ตาม สำหรับใครที่เลี้ยงแมว ดูเหมือนว่าแมวของเราจะไม่ค่อยเข้าใจว่าทำไมถึงต้องมีต้นคริสต์มาส และยิ่งเราพยายามที่จะตกแต่งต้นคริสต์มาสให้ดูสวยงาม อลังการ มันก็ยิ่งทำให้เจ้าเหมียวให้ความสนใจเป็นพิเศษ เจ้าของหลายคนเริ่มรู้สึกหงุดหงิดเมื่อแมวเริ่มที่จะปีนต้นไม้ เล่นเครื่องประดับที่แขวนอยู่ หรือแม้แต่พยายามที่จะโค่นต้นไม้ทั้งต้นให้มันวอดวายกันไปเลย 
.
ทำไมแมวถึงสนใจต้นคริสต์มาส อันนี้มีคำตอบมากมายเลยทีเดียว อย่างแรกอาจจะเพราะเครื่องประดับแวววาวทำให้แมวสนใจ หรือบางทีเครื่องประดับบางอันอาจดูเหมือนของเล่นแมว หรือแม้กระทั่งผิวของต้นไม้ก็เหมาะสำหรับการข่วนเล็บ  รวมไปถึงสำหรับแมวแล้วต้นไม้ยังคงเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการปีนขึ้นไปสุดๆ ไม่ว่าจะเป็นต้นคริสมาสต์หรือต้นอะไรก็ตาม
.
หากเจ้าเหมียวมีพฤติกรรมดังกล่าว อย่างแรกที่เราควรทำคือนำของเล่นที่แมวชอบและที่ลับเล็บมาวางใกล้ๆ กับต้นคริสต์มาส เพื่อให้แมวสนใจสิ่งเหล่านั้นแทน นี่เป็นวิธีที่ง่ายที่สุดแล้ว แต่แมวแต่ละตัวมีนิสัยไม่เหมือนกัน วิธีนี้อาจใช้ได้ผลกับแมวบางตัวเท่านั้น แต่ถ้าไม่ได้ผลให้ลองขั้นตอนต่อไปนี้ดู ไม่แน่ว่าอาจจะได้ผลก็ได้นะ
.
1. ลองใช้กลิ่น Citrus ผลไม้รสเปรี้ยวอบแห้งเช่น ส้ม โดยทั่วไปแมวไม่ชอบส้ม ดังนั้นคุณอาจแขวนเปลือกส้มแห้งบนต้นคริสต์มาสของคุณเพื่อกันแมวได้
.
2. ทำให้แมวเข้าใจว่าไม่สามารถเข้ามาเล่นกับต้นคริสต์มาสได้ ด้วยการแสดงออกให้เขาเห็นว่าเราไม่พอใจ เช่น การปรบมือดังๆ หรือเขย่ากระป๋อง เมื่อแมวเข้าใกล้ต้นไม้
.
3. โรยพริกไทยหรือวางของที่เขาไม่ชอบไว้แถวๆ ต้นคริสมาสต์ นั่นก็อาจจะทำให้น้องแมวรู้สึกไม่ค่อยอยากเดินไปใกล้ต้นคริสมาสต์มากนักก็ได้
.
อย่างไรก็ดี ถ้าลองใช้เทคนิคเหล่านี้ทั้งหมดแล้วแต่ไม่ได้ผล เราก็คงต้องทำใจปล่อยเลยตามเลยแล้วล่ะ สิ่งที่ควรทำคือดูว่าต้นคริสต์มาสแข็งแรงดี ไม่ล้ม และไม่มีของประดับอะไรที่เป็นอันตรายต่อแมว โดยวิธีไม่ให้ต้นไม้ล้ม คือ การยึดหรือถ่วงน้ำหนักต้นไม้ด้วยลวดกับผนังหรือกับเพดาน
.
มาฉลองคริสมาสต์กับเจ้าเหมียวแบบที่ทุกคนแฮปปี้ด้วยกันนะ

อ้างอิงข้อมูล
https://pethelpful.com/cats/How-to-Keep-Your-Cat-Out-of-The-Christmas-Tree

#howl #cat #catlover #funfacts #knowhowl
จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อต้นคริสมาสต์แถมโคอาล่ามาให้ด้วย
.
ใกล้เข้ามาแล้วกับเทศกาลคริสต์มาสที่ทุกคนรอคอย ความสนุกจากงานเทศกาลต่างๆ และแน่นอนว่าพลาดไม่ได้กับการตกแต่งต้นคริสมาสต์ แต่ใครจะคิดกันล่ะว่าตุ๊กตาบนต้นคริสต์มาสนั้น อยู่ดีๆ จะกลายเป็นหมีโคอาล่าจริงๆ ไปซะได้
.
เรื่องนี้เกิดขึ้นที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งในออสเตรเลีย เมื่อครอบครัว McCormick ได้กลับมาที่บ้านหลังจากไปทำธุระข้างนอกมาพักใหญ่ ทันทีที่พวกเขาก้าวเข้ามาในบ้านพวกเขาก็รู้สึกได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติไปจากเดิม
.
ครอบครัว McCormick เล่าว่าพอเข้ามาในบ้าน สุนัขที่พวกเขาเลี้ยงก็ได้ตรงไปที่ต้นคริสต์มาสภายในห้องนั่งเล่นพร้อมดมกลิ่นทันที ส่วนรอบๆ ต้นคริสมาสต์ก็มีของประดับหล่นอยู่เกลื่อนพื้น แล้ว Amanda หรือคุณแม่ของครอบครัวนี้ก็เงยหน้าขึ้นมองและพบว่ามีโคอาล่าจริงๆ ตัวหนึ่งแอบแฝงตัวอยู่บนต้นคริสต์มาสปลอมในบ้าน โดยเจ้าโคอาล่าตัวนี้กำลังสับสนเพราะตัวมันถูกสายไฟพันจนวุ่นวายไปหมด 
.
"มันเป็นต้นไม้ปลอมและเก่ามาก แต่เจ้าหมีโคอาล่าตัวนี้ก็ยังคงพยายามแทะกินใบไม้อยู่ ก่อนที่จะหยุดเมื่อรู้ว่ามันเป็นต้นไม้พลาสติก" Taylah ลูกสาววัย 16 ปีของครอบครัว McCormick กล่าว
ในตอนแรก Amanda คิดว่าเป็นการแกล้งเล่นๆ จากลูกสาว แต่สุดท้ายก็รู้ว่าเจ้าหมีโคอาล่าน้อยตัวนี้น่าจะเดินเข้ามาตอนที่ประตูบ้านของพวกเขาเปิดอยู่และน่าจะอยู่ในบ้านนี้อย่างน้อยสามชั่วโมงในขณะที่พวกเขาออกไปข้างนอกกัน
.
แม้แต่เจ้าหน้าที่กู้ภัยของ 1300KOALAZ หรือ Adelaide and Hills Koala Rescue ก็ยังสงสัยว่านี่เป็นการโทรแกล้งกันหรือเปล่า เมื่อตอนที่ครอบครัว McCormick ได้โทรหาพวกเขาให้มานำโคอาล่าตัวนี้กลับไปอยู่ในป่า แต่สุดท้ายเขาก็ส่งเจ้าหน้าที่ไปช่วยเหลือได้อย่างปลอดภัย แถมเจ้าหน้าที่ยังระบุอีกด้วยว่าเจ้าโคอาล่าตัวนี้เป็นเพศหญิงสุขภาพแข็งแรงอายุประมาณ 3 หรือ 4 ปี ซึ่ง Taylah ได้ตั้งชื่อว่า Daphne
.
“จริงๆ อากาศไม่ได้ร้อนขนาดโคอาล่าต้องเข้าไปหลบในบ้านคน ดูเหมือนเคสคราวน่าจะเกิดขึ้นเพราะหมีโคอาล่าในเขตชานเมืองค่อนข้างอยากรู้อยากเห็นบ้านของมนุษย์จึงอยากลองเข้าไปสำรวจดูอย่างนั้นมากกว่า” Hearne-Hellon ผู้ร่วมก่อตั้งหน่วยกู้ภัย Adelaide and Hills Koala Rescue กล่าว
.
ทีมกู้ภัยได้ปล่อย Daphne ไปที่บริเวณต้นไม้ใกล้ และครอบครัว McCormick ยังบอกอีกว่าพวกเขาจะคอยเฝ้าดูเจ้าหมีโคอาล่าน้อยตัวนี้ตลอดไป
.
“มันเป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำมาก หลังจากผ่านปีที่เลวร้ายมาก็พบว่านี่เป็นเรื่องดีที่มีสัตว์ตัวน้อยเข้ามา” Amanda McCormick กล่าวทิ้งท้าย

#howl #animal #wildlife #koala #australia #funfacts #knowhowl
ปีใหม่นี้ มาหาเนื้อคู่กันเถอะ
.
จะหาใครซักคนที่มาแมตช์กับตัวเรานั้นช่างยากเหลือเกิน จะใช้แอปหาคู่กี่แอปก็ไม่สำเร็จซักที แต่ว่าคราวนี้เรามีไอเดียดีๆ มานำเสนอ ถ้าแมตช์กับคนด้วยกันมันยากนัก งั้นเรามาแมตช์กับแมวแทนดีไหม
.
ที่อังกฤษมีแมวจรจัดจำนวนมากกำลังหาบ้านและเจ้าของอยู่ โดยเฉพาะในช่วงการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 แบบนี้ จึงได้มีองค์กรการกุศลด้านสัตว์ของประเทศอังกฤษที่กำลังจะพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสหาบ้านใหม่ให้กับเหล่าแมวจรจัดด้วยแนวทางการใช้เทคโนโลยีเป็นสื่อกลางได้อย่างน่าสนใจ
.
องค์กรการกุศลได้หาบ้านใหม่ให้แก่แมวจรจัดด้วยการใช้ Video-Call ที่สามารถสื่อสารโต้ตอบกันได้เพื่อจับคู่ระหว่างเจ้าของกับแมวที่ถูกใจและมีความต้องการตรงกัน ซึ่งโครงการนี้มีชื่อเรียกว่า “Hands-Free Homing” 
.
โดยหากพบว่ามีการจับคู่เรียบร้อยแล้วนั้น ทาง Cats Protection หรือบริการขนส่งน้องแมวแบบปลอดภัยและปลอดเชื้อ COVID-19 จะขนส่งสัตว์ไปยังหน้าประตูบ้านเจ้าของใหม่ในทันที เรียกได้ว่ารวดเร็วทันใจสุดๆ โดยหลังจากเริ่มโครงการภายในเดือนพฤศจิกายนก็พบว่าโครงการนี้ได้ช่วยให้บ้านใหม่แก่แมวจรจัดมากถึง 10,859 ตัว เลยทีเดียว
.
ดังเช่นในกรณีของ Sandra และ Anthony Fludgate จาก Berkshire ประเทศอังกฤษ โดยทั้งสองได้ใช้ Hands-Free Homing เพื่อรับเลี้ยงลูกแมวอายุ 6 สัปดาห์ โดยได้ตั้งชื่อว่า Hans
.
“เนื่องจากสามีของฉันเป็นผู้พิการ นั่นจึงทำให้พวกเรารู้สึกอุ่นใจเมื่อได้รับความรักซึ่งเป็นสิ่งสำคัญสำหรับเรา และนอกจากนี้เขายังรักแมวมาก และการมีลูกแมวก็ยังทำให้พวกเรารู้สึกสดชื่นอยู่เสมออีกด้วย”  Anthony Fludgate กล่าว
.
Mike Elliott ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการภาคสนามของ Cats Protection กล่าวว่าสิ่งที่ได้จากแมว 10,000 ตัวที่ได้มีบ้านใหม่คือความสำเร็จครั้งใหญ่และเป็นการพิสูจน์ให้เห็นว่าเราสามารถช่วยเหลือเหล่าแมวที่ยังต้องการบ้านได้ด้วยวิธีการใหม่ๆ ที่ไม่เหมือนเดิม
.
สำหรับปีใหม่นี้ ใครที่คิดอยากเริ่มต้นเลี้ยงแมว เราขอแนะนำว่าให้ลองรับเลี้ยงน้องแมวจรจัดหรือน้องแมวในศูนย์พักพิงต่างๆ จะดีมากเลยนะ นอกจากจะได้ช่วยน้องแล้วยังช่วยลดปัญหาแมวจรจัดได้อีกด้วย
.
.
อ้างอิงข้อมูล
 .
10000 Cats Rehomed Through Innovative Video Matching Scheme (pawsibilties.org)
.
Over 10,000 cats rehomed through innovative ‘video matching’ scheme  The Independent
.
อ่านเรื่องอื่นๆ ได้ที่ : www.readhowl.com

#howl #cat #catlover #funfacts #knowhowl
เราสามารถปล่อยให้แมวอยู่ตามลำพังได้นานแค่ไหน 
.
เชื่อว่านี่เป็นคำถามยอดฮิตของคนเลี้ยงแมวหลายคน ในทุกวันที่คุณต้องออกไปทำงาน แล้วต้องปล่อยให้น้องแมวที่รักอยู่ที่ห้องตามลำพัง คุณคงกังวลว่าน้องจะอยู่ได้ไหม น้องจะเหงาหรือเปล่า
.
เราคงเคยได้ยินกันบ่อย ๆ ว่าแมวเป็นสัตว์นักล่า รักสันโดษ สามารถเอาตัวรอดได้ ไม่จำเป็นต้องมีคนดูแล จริงอยู่ที่โดยธรรมชาติเป็นแบบนั้น แต่ในปัจจุบันเมื่อคนเรานำแมวมาเลี้ยงอย่างใกล้ชิด สิ่งหนึ่งที่เราอาจคิดไม่ถึง คือ ความเหงา ใช่แล้วล่ะ เห็นหน้าตานิ่ง ๆ อย่างนั้น แต่ที่จริงแล้วแมวก็เหงาเป็นเหมือนกัน อ้างอิงจากงานวิจัยที่ตีพิมพ์ลงวารสาร PLOS ONE ที่พบว่าแมวมีความผูกพันอย่างลึกซึ้งกับเจ้าของ แมวจึงรู้สึกเหงาและเครียดได้เมื่อเจ้าของไม่อยู่ ดังนั้นการปล่อยแมวไว้เพียงลำพัง จึงไม่ใช่สิ่งที่ดีนัก
.
แต่ครั้นจะห้ามไม่ให้เจ้าของออกไปไหนเลยก็คงเป็นไปไม่ได้ ผู้เชี่ยวชาญจึงแนะนำว่าหากจำเป็นต้องปล่อยแมวไว้ตามลำพังจริง ๆ ก็ไม่ควรนานเกิน 24 ชั่วโมง (สำหรับแมวที่สุขภาพดีโตเต็มวัยเท่านั้น ส่วนแมวเด็กหรือแมวป่วยนั้นเป็นกรณียกเว้น) นอกจากนี้เจ้าของยังควรเตรียมความพร้อม ทั้งเรื่องอาหาร น้ำดื่มสะอาด กระบะทราย และของเล่นสุดโปรด เช่น ที่ลับเล็บ ลูกบอลขนปุย แคทนิป เป็นต้น
.
ถึงแม้ว่าสิ่งเหล่านี้จะช่วยให้แมวคลายเหงาได้บ้าง แต่อย่าเพิ่งวางใจไป เพราะสิ่งที่น่าเป็นห่วงยิ่งกว่านั้นคือ อุบัติเหตุ โดยเฉพาะถ้าแมวของคุณมีนิสัยซุกซนแล้วล่ะก็ ให้พึงระลึกไว้เสมอว่าน้องอาจได้รับอันตรายจากการเล่นซน ในทางกลับกันอันตรายนั้นอาจเกิดขึ้นกับข้าวของเครื่องใช้ในห้องของคุณเอง แค่คิดก็น่ากลัวแล้ว ดังนั้นหากคุณจำเป็นต้องออกไปธุระหลายวัน แนะนำว่าให้ฝากน้องแมวไว้กับคนสนิทที่ไว้ใจ โรงแรมแมว หรือคลินิกที่มีคนคอยดูแลน้องอย่างใกล้ชิดจะดีกว่า
.
ทางที่ดีที่สุดอย่าปล่อยน้องแมวอยู่ตามลำพังนานเลยนะ เพราะสำหรับแมวแล้วคุณเป็นเพื่อนเพียงคนเดียวของเขา ถึงเขาจะไม่ค่อยแสดงออกว่าเหงา แต่ใครจะรู้ล่ะ เขาอาจจะรอคุณกลับมาเล่นด้วยทุกวันเลยก็ได้
.
.
อ้างอิงข้อมูล

https://www.rover.com/blog/how-long-can-you-leave-a-cat-alone/

https://www.psychologytoday.com/us/blog/all-dogs-go-heaven/202004/do-cats-get-anxious-when-you-leave-them
.
.
อ่านเรื่องอื่นๆ ได้ที่ : www.readhowl.com

#howl #cat #catlover #funfacts #knowhowl
ปีใหม่ทั้งที...มาเริ่มต้นสิ่งดีๆ ด้วยกันนะ
.
โพสนี้ขอขายของหน่อยนะ (เอ๊ะ แต่ได้ข่าวว่าก็ขายของมาหลายโพสแล้วนิ เอาน่า หยวนๆ หน่อยนะ) 
.
จะอย่างไรก็ตาม...ปฏิทิน howl 2021 พร้อมให้ทุกท่านได้สั่งจองแล้วนะ ปีนี้เรามาในธีมน้องหมาน้องแมวหนุนของไว้บนหัวสุดน่ารัก เอาไว้เตือนใจว่าปีหน้าต้องสร้างสมดุลสิ่งที่เราถือไว้ให้ดี แต่ถ้าไม่ไหวยังไงก็ใช้น้องๆ มาช่วยกันหนุนได้
.
นอกจากนี้ปีนี้เรายังปรับโมเดลตัวกล่องใหม่ให้ประหยัดพื้นที่และดูมินิมอลขึ้นกว่าเดิม โดยโมเดลใหม่นี้ลดการใช้วัสดุลงอีกกว่า 30% เพื่อช่วยรักษ์โลกอีกด้วย และที่สำคัญคือระหว่างดีไซน์เราได้พบฟังก์ชั่นซ่อนที่เราชอบมากๆ อย่างด้านหลังของปฏิทินก็สามารถใช้เป็นที่วางมือถือได้อีกด้วยนะ (ดูรูปได้ในคอมเมนต์)
.
เปิดขายแล้ววันนี้ในราคาชุดละ 280 บาท ถ้าสั่งภายในเดือนธันวาคมฟรีค่าจัดส่งจ้า สนใจอินบ็อกมาได้เลยจ้า
.
แล้วมาเริ่มเรื่องราวดีๆ ด้วยกันนะ
.
.
อ่านเรื่องอื่นๆ ได้ที่ : www.readhowl.com

#howlcalendar2021 #howlxkafbo #ปฏิทินhowl #calendar2021 #cattoys #catofinstagram #catlover #dog #doglovers #dogloversofinstagram #designideas #knowhowl
เมื่อน้องหมาโชว์พลังความจำที่ทำให้มนุษย์อย่างเราต้องทึ่ง
.
แม้ว่าการจำหน้าตาเจ้าของและชื่อของตัวเองอาจเป็นเรื่องง่ายสำหรับสุนัข แต่ก็ไม่ใช่สุนัขทุกตัวที่สามารถจำสิ่งของต่างๆ ได้ แต่ความสามารถของน้องหมาที่เราจะเล่าต่อไปนี้อาจทำให้คุณอึ้ง
.
เพราะว่าน้องหมาตัวนี้สามารถจดจำของเล่นได้กว่า 100 ชิ้น ได้ !
.
Whisky เป็นสุนัขพันธุ์ Border collie ที่กำลังโด่งดังมากในประเทศนอร์เวย์ โดยขึ้นชื่อเรื่องความฉลาดอันน่าทึ่งจากการจดจำชื่อและหมวดหมู่ของเล่นกว่า 100 ชิ้นของตัวเองได้ และยิ่งน่าทึ่งขึ้นไปอีกเมื่อ Whisky เรียนรู้เอาเองจากการใช้ชีวิตประจำวันเท่านั้น
.
Helge Svela เจ้าของของ Whisky กล่าวว่า ในระหว่างการวิจัย Whisky ได้พิสูจน์ให้เห็นชัดว่ารู้จักชื่อของเล่นอย่างน้อย 54 ชิ้นจากทั้งหมด 59 ชิ้น รวมไปถึงสามารถแยกแยะชื่อของของเล่นที่มีคำอธิบายต่างๆ ต่อท้ายได้
.
หลังจากนั้น Claudia Fugazza จาก Eotvos Lorand University จึงได้เริ่มทำการวิจัยที่บ้านของ Whisky ซึ่งในการทดสอบพบว่าน้องหมาตัวนี้จดจำของเล่นได้เป็นอย่างดี จากนั้นจึงได้ทดสอบความจำแบบแยกหมวดหมู่ โดยที่ Claudia Fugazza จะมีการจัดกลุ่มของเล่นใหม่ๆ รวมเอาไว้ในห้องเดียวกัน แล้วเธอกับเจ้าของสุนัขจะรออยู่ในห้องครัว แล้วสั่งให้ Whisky ไปหยิบของเล่นตามชื่อเรียก เช่น กล่อง หรือ จานร่อน ตามหมวดหมู่ในกลุ่มของเล่นที่ถูกจัดเอาไว้นั่นเอง
.
ผลจากการทดสอบในครั้งนี้แสดงให้เห็นได้ว่า Whisky นั้นประสบความสำเร็จประมาณ 50 เปอร์เซ็นต์จากการทดสอบเลือกของเล่นทั้งหมด ซึ่งมากกว่าการที่ Whisky เลือกหยิบของเล่นมาให้แบบสุ่มอย่างมีนัยสำคัญ
.
แม้ว่าในอดีตอาจจะมีสุนัขที่มีความจำเป็นเลิศแบบเดียวกัน เช่น Chaser สุนัขพันธุ์ Border Collie ที่รู้จักชื่อวัตถุมากกว่า 1,000 ชิ้น และรู้จักแยกแยะหมวดหมู่ของประเภทวัตถุต่างๆ ได้ แต่ความสำเร็จของ Whisky นั้นนับว่าน่าแปลกใจยิ่งกว่าเพราะน้องหมาตัวนี้ไม่ได้ผ่านการฝึกอย่างเข้มข้นแบบเดียวกับที่ Chaser เคยฝึกมาในโปรแกรมพิเศษตั้งแต่เด็ก จึงเรียกได้ว่าความสามารถของ Whisky นั้นได้มาจากการเรียนรู้ด้วยตัวเองล้วนๆ เลยล่ะ
.
พอฟังแบบนี้แล้วก็ชักอยากลองฝึกน้องหมาของเราบ้างเลยใช่ไหม แต่อย่างไรก็ดีเจ้าของควรทราบไว้ว่าน้องหมาแต่ละตัวมีความสามารถในการจำและสมาธิที่แตกต่างกัน ลองหารูปแบบการฝึกที่เหมาะกับน้องหมาตัวเองดู เพื่อที่ทั้งเราและน้องหมาจะได้สนุกไปด้วยกันได้นะ
.
เครดิตรูปภาพ : Helge O. Svela via New York Times

อ่านเรื่องอื่นๆ ได้ที่ : www.readhowl.com

#howl #dog #doglover #funfacts #knowhowl
แพ้ขนแมวคืออะไร มนุษย์แพ้ “ขนแมว” จริงๆ หรือ
.
ภาวะแพ้ขนแมว เป็นหนึ่งในปัญหาที่ยิ่งใหญ่สำหรับเจ้าของแมวทุกคนที่คงทำใจลำบาก หากวันหนึ่งเราไม่สามารถเล่นกับน้องแมวที่รักของเราได้เหมือนเดิม
.
แต่ถึงจะเรียกว่าแพ้ขนแมวกันมาจนชิน แต่จริงๆ แล้วสิ่งที่มนุษย์แพ้ไม่ใช่ตัวขนแมวแต่อย่างใด หากแต่คือ โปรตีน Fel-d1 ที่มีอยู่ในน้ำลาย ผิวหนัง และฉี่ของแมวต่างหาก ซึ่งคุณสมบัติหนึ่งของ โปรตีน Fel-d1 มันสามารถเคลือบและสะสมอยู่บนขนของแมวเป็นระยะเวลานานกว่า 1 เดือน ทำให้เรามักเข้าใจว่าเราแพ้ขนแมวนั่นเอง
.
ลองนึกภาพกันว่า ทุกๆ ครั้งที่แมวทำความสะอาดตัวเอง โปรตีน Fel-d1 ก็จะติดอยู่บนตัวเจ้าเหมียวอยู่ตลอดเวลา หากมันขึ้นมานั่งบนโซฟา โปรตีน Fel-d1 ก็จะมาติดอยู่บนโซฟา และทุกๆ ที่ที่มันไปก็จะป้าย โปรตีน Fel-d1 ไปด้วยเช่นกัน พอจะเห็นภาพกันแล้วใช่ไหมว่าโอกาสในการที่เราจะสัมผัสกับโปรตีน Fel-d1 สูงมาก
.
ซึ่งอาการแพ้ขนแมวในแต่ละคนก็แตกต่างกัน บางคนมีอาการแพ้ในระดับที่ไม่รุนแรง เช่น คัดจมูก น้ำตาไหล หน้าแดง แต่บางคนที่มีอาการแพ้ขั้นรุนแรง เช่น หายใจติดขัด ซึ่งหากปล่อยไว้ระยะเวลานานอาจจะทำให้อันตรายถึงขั้นเสียชีวิต
.
ถ้าเรามีอาการแพ้ขนแมวดังกล่าว เราควรแก้ปัญหายังไงดี
.
ควรทิ้งแมวที่เราเลี้ยงไปเลยดีไหม….
ลาก่อนนะเจ้าเหมียว ขอบคุณสำหรับทุกความทรงจำที่ผ่านมา...
.
เดี๋ยวก่อน เราไม่จำเป็นต้องทำอย่างนั้น ไม่ว่าทิ้งแมวของเราหรือฝากให้หลวงตาเลี้ยงถาวร โดยเราสามารถหยุดภาวะการแพ้ขนแมวเบื้องต้นได้ด้วยการแบ่งพื้นที่สำหรับคนและแมวออกจากกัน อีกทั้งควรกำหนดพื้นที่ภายในบ้านให้ชัดเจนว่าแมวสามารถอยู่ตรงไหนได้บ้าง เพื่อลดการสะสมของสารก่อภูมิแพ้ โดยเฉพาะห้องนอนเป็นอีกสถานที่ที่เราไม่ควรมองข้าม เราควรแยกที่นอนของเจ้าเหมียวออกจากที่นอนของเรา
.
อีกเรื่องที่น่าสนใจคือมีแมวบางสายพันธุ์ที่มีปริมาณ โปรตีน Fel-d1 ในน้ำลายต่ำ ทำให้เกิดกระตุ้นภาวะแพ้ขนแมวได้น้อยลงด้วย โดยสายพันธุ์แมวเหล่านี้คือ Siberian (แมวไซบีเรียนนะ ไม่ใช่น้องหมาไซบีเรียน ฮัสกี้) Balinese และ Sphynx (ในกรณีสฟิงค์อาจเพราะไม่มีขนทำให้โปรตีน Fel-d1 เกาะตามตัวได้น้อย)
.
ภาวะแพ้ขนแมวถือว่าเป็นเรื่องน่าลำบากใจ แต่อีกสิ่งหนึ่งที่อันตรายไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากันก็คือภาวะแพ้อาหารแมว ที่เมื่อถึงปลายเดือนทีไร เห็นบิลค่าอาหารน้องแมวที่บ้านก็รู้สึกใจกระตุก หายใจไม่ออกทุกทีเลยสิน่า
.
ว่าแล้วเงินเดือนออกก็ต้องเอามาเปย์น้องๆ อีกแล้วสินะ
.
อ้างอิงข้อมูล

https://pethelpful.com/cats/What-If-My-Boyfriend-Girlfriend-Is-Allergic-to-My-Cat

#howl #cat #catlover #funfacts #knowhowl
Howl Calendar 2021 ที่ทุกคนรอคอยเปิดวางขายแล้วจ้า
.
ปีใหม่เราก็ต้องทำอะไรใหม่ๆ ปีนี้เราเลยขอคิดใหม่ทำใหม่ด้วยการรีโมเดลตัวกล่องปฏิทินให้ประหยัดพื้นที่และมินิมอลมากขึ้น พร้อมช่วยรักษ์โลกด้วยการลดปริมาณวัสดุที่ใช้ลงกว่า 30% อีกด้วย
.
ส่วนเนื้อในเรามีซีรีย์ภาพวาดน่ารักๆ ของน้องหมาน้องแมวหนุนของไว้บนหัว เอาไว้ดูเป็นกำลังใจตลอดปีหน้าว่าถ้ามีอะไรหนักหนาเกินรับไว้ น้องๆ ก็จะช่วยหนุนให้เอง ด้วยฝีมือการวาดสุดน่ารักของคุณ Linkumi ที่เพื่อนๆ ทุกคนคุ้นเคย
.
เริ่มเปิดวางขายแล้วตั้งแต่วันนี้ - 25 ธันวาคม ในราคาชุดละ 280 บาท โดยถ้าสั่งภายในรอบนี้ พิเศษ ฟรีค่าจัดส่ง โดยเริ่มจัดส่งรอบแรกวันที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2563
.
รีบสั่งกันมาได้เลยน้า บอกเลยว่าของมีจำกัดหมดแล้วหมดเลยจ้า
.
.
รายละเอียดลึกๆ
- พิมพ์ 4 สี หน้าหลัง สุดเนี๊ยบ
- ขนาดการ์ด : 10 x 15.8 ซม.
- กระดาษ : การ์ดขาว 700 แกรม เคลือบด้าน 1 หน้า
- จำนวน : 12 แผ่น
- ราคา : 280 บาท
- ศิลปิน : Linkumi

#howlcalendar2021 #howlxkafbo #ปฏิทินhowl #calendar2021 #cattoys #catofinstagram #catlover #dog #doglovers #dogloversofinstagram #designideas
จะปีใหม่แล้ว...มาเริ่มต้นใหม่ด้วยกันนะ
.
ขอให้ทุกท่านเชื่อในพลังแห่งการเริ่มต้นใหม่ไปกับ howl calendar 2021 ที่ในปีนี้เราได้รีดีไซน์รูปแบบกล่องใหม่ให้มินิมอลและประหยัดที่ขึ้นกว่าเดิม พร้อมทั้งยังรักษ์โลกมากขึ้นด้วยการออกแบบที่ลดการใช้วัสดุลงกว่า 30%
.
ส่วนเนื้อในเป็นซีรีย์ภาพวาดน้องหมาน้องแมวหนุนของไว้บนหัวสุดน่ารักด้วยฝีมือการวาดของคุณ Linkumi นักวาดขาประจำที่หลายคนชื่นชอบ พร้อมด้วยความหมายที่ว่าปีหน้าทุกอย่างที่ผ่านเข้ามาคงไม่ง่าย สิ่งสำคัญคงเป็นการรักษาสมดุลตัวเองกับสิ่งที่ต้องแบกรับไว้ แต่ถ้าไม่ไหวยังไง เหล่าน้องๆ ก็จะพร้อมใจช่วยหนุนไว้ให้เอง
.
ราคาชุดละ 280 บาท สั่งซื้อภายในวันที่ 25 ธันวาคมนี้ ฟรีค่าจัดส่ง (จัดส่งรอบแรกวันที่ 9 ธันวาคม) ใครที่สนใจทักอินบ็อกมาได้เลยนะ
.
ปีที่ผ่านมาเชื่อว่าหลายคนคงเจอกับเรื่องราวหนักหนามามากมาย แน่นอนว่าพวกเราเองก็เช่นกัน แต่ถึงอย่างนั้นก็อย่าเพิ่งหมดหวังนะ
.
มาเริ่มต้นใหม่ด้วยกันอีกครั้ง
.
แล้วครั้งนี้จะต้องดีขึ้นกว่าเดิมแน่ๆ เลย
.
.
รายละเอียดลึกๆ
- พิมพ์ 4 สี หน้าหลัง สุดเนี๊ยบ
- ขนาดการ์ด : 10 x 15.8 ซม.
- กระดาษ : การ์ดขาว 700 แกรม เคลือบด้าน 1 หน้า
- จำนวน : 12 แผ่น
- ราคา : 280 บาท
- ศิลปิน : Linkumi

#howlcalendar2021 #howlxkafbo #howlcalendar #howl
นี่อาจเป็นแมวที่ได้รับความรักจากผู้คนมากที่สุดตัวหนึ่งในโลก
.
กลางฤดูหนาว ปี ค.ศ. 2008 ได้มีแมวจรจัดหิวโหยตัวหนึ่งเดินผ่านมาที่โบสถ์ Southwark Cathedral ที่เมืองลอนดอน และได้ตัดสินใจหลบหนาวอยู่ที่นี่ จนกระทั่งมีบาทหลวงมาพบเข้าและให้อาหาร ก่อนที่จะรับเลี้ยงไว้ในโบสถ์ในเวลาต่อมา โดยแมวตัวนี้ได้รับการตั้งชื่ออันแสนไพเราะว่า Doorkins Magnificat หรือเรียกสั้นๆ ว่า Doorkins
.
น้องแมว Doorkins Magnificat กลายเป็นส่วนสำคัญของโบสถ์ Southwark Cathedral แห่งนี้อย่างรวดเร็ว เนื่องจากเธอเป็นแมวตัวเดียวในโบสถ์ และชอบทำตัวเหมือนอยู่บ้าน โดยไม่สนใจกับเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นรอบตัวเลยก็ตาม ไม่แม้กระทั่งการเสด็จมาเยือนของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักร แมวตัวนี้ก็ยังคงรับเสด็จด้วยการนอนหลับบนที่นอนโปรดอย่างสบายใจ
.
นอกจากนี้วีรกรรมสุดแสบของ Doorkins คือเป็นแมวที่ชอบเดินเข้าไปนั่งเลียและทำความสะอาดตัวเองต่อหน้าทุกคนในช่วงเวลาที่โบสถ์กำลังทำพิธีสำคัญ แต่นั่นก็ทำให้ผู้คนรักและเอ็นดูเธอมากเช่นกัน จนอาจเรียกได้ว่า Doorkins เป็นที่โด่งดังไม่น้อย เพราะแมวตัวนี้มีแอคเคาท์ Twitter เป็นของตัวเองและมีผู้ติดตามมากกว่า 6,000 คน นอกจากนี้ทางโบสถ์ Southwark Cathedral ยังได้จัดทำสินค้าที่ระลึกสำหรับแฟนคลับที่มาหาเธอที่โบสถ์ไว้จำหน่ายอีกด้วย เช่น การ์ดอวยพร แก้ว และแม่เหล็กติดตู้เย็น
.
Doorkins Magnificat อยู่ที่โบสถ์แห่งนี้เป็นเวลานานถึง 12 ปี แต่ทว่าในปี ค.ศ. 2017 สุขภาพของ Doorkins เริ่มแย่ลงจากปัญหาเกี่ยวกับไต รวมทั้งเริ่มหูไม่ดีและสายตามองไม่ค่อยเห็น จนในที่สุดเธอก็ไปอาศัยอยู่กับบาทหลวง Paul Timms ซึ่งพบว่าเธอป่วยเป็นโรคหลอดเลือดสมองเมื่อปลายเดือนกันยายน ก่อนจะเสียชีวิตในอ้อมแขนของบาทหลวงท่านนี้ในเวลาต่อมา
.
เรื่องราวชีวิตของ Doorkins Magnificat เป็นเครื่องพิสูจน์ที่ดีว่าความรักจากแมวจรจัดสามารถนำมาสู่ชุมชนคริสตจักรและผู้มาเยือนได้มากมายกว่าที่เราคิด ดังนั้นเพื่อเป็นการระลึกถึงแมวอันเป็นที่รัก ทางโบสถ์ Southwark Cathedral จึงได้จัดพิธีศพภายใต้ซุ้มประตูแบบโกธิก จากนั้นจึงได้นำร่างของแมวตัวนี้ได้พักตลอดกาลที่สวนสาธารณะ และเนื่องจากข้อจำกัดของ COVID-19 จึงอนุญาตให้มีผู้เข้าร่วมพิธีได้เพียง 30 คน แต่มีการสตรีมแบบสดพร้อมกันและขณะนี้สามารถรับชมได้บน YouTube นับตั้งแต่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 28 ตุลาคม ค.ศ. 2020 โดยมีผู้เข้าชมวิดีโอเกือบ 20,000 ครั้งเลยทีเดียว
.
สุดท้ายนี้พวกเราเองก็ขอให้ Doorkins Magnificat ได้ไปเป็นนางฟ้าบนสวรรค์ตลอดไปนะ

#howl #cat #catlover #funfacts #knowhowl
Load More... Follow on Instagram

  • Home
  • Gallery
  • Magazine
  • Story
  • Contact