Web Exclusive
ในตอนนี้กบอาจเป็นสัตว์ที่เราคิดว่าพบได้ทั่วไป แต่จริงๆ แล้วกบทั่วโลกกำลังลดลงอย่างหนักและต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งมาจากแหล่งที่อยู่อาศัยถูกทำลายและมลพิษในน้ำที่เพิ่มมากยิ่งขึ้น รวมไปถึงโรคระบาดในกบ

กบ
ชิ้นส่วนแห่งคำสาปและผู้ส่งสารแห่งสายฝน

ภาพประกอบ : Ton Krisana Chokchaowat เรื่อง : howl the team

ไม่มีใครรู้ว่าจุดเริ่มต้นของการมีอยู่ในเรื่องเล่าและตำนานของกบนั้นเริ่มต้นที่ไหนกันแน่ แต่น่าทึ่งว่าในทุกตำนานแทบทุกแห่งทั่วโลกมักมีกบเป็นส่วนหนึ่งในนั้นเสมอ กบเป็นทั้งส่วนประกอบของคำสาปไปจนถึงเทพเจ้าแห่งความอุดมสมบูรณ์ขึ้นอยู่กับว่าแต่ละพื้นที่นั้นมีการตีความอย่างไร

ในอียิปต์โบราณ กบถูกนับถือว่าเป็นตัวแทนแห่งความสมบูรณ์และการกำเนิด โดยมีเทพี Hekt ที่มีศีรษะเป็นกบ และถ้าใครที่ได้สัมผัสกับตัวกบสิ่งที่หวังนั้นจะสมปราถนา แต่ในขณะเดียวกันในคัมภีร์ไบเบิลระบุไว้ว่ายามเมื่อภัยพิบัติทั้งสิบของพระเจ้าลงโทษฟาโรห์ที่ไม่มีศรัทธาและขัดขวางโมเสสในการพาชาวยิวกลับดินแดนแห่งพันธสัญญา หนึ่งในนั้นก็คือการที่ฝนตกลงมาเป็นกบนั่นเอง

นอกจากนี้กบยังเป็นส่วนผสมของยารักษาโรคต่างๆ มาตั้งแต่สมัยโบราณ ชาวอังกฤษสมัยก่อนเชื่อว่าถ้าเอากบไปตากแห้งแล้วคล้องคอไว้จะช่วยป้องกันการชักได้ หรือบางที่ก็เชื่อว่ากบเป็นๆ ก็ช่วยรักษาโรคได้เช่นกัน เช่น อมกบเป็นไว้ในปากจะช่วยรักษาโรคเชื้อราในปากหรือลำคอ และหากกลืนกบเป็นๆ ลงไปจะช่วยรักษาวัณโรคได้

ส่วนทางด้านชนเผ่า Xhosa ในทวีปแอฟริกาใต้ เชื่อว่าถ้ามีกบเข้ามาในบ้าน กบจะนำพาโชคร้ายมาให้ ส่วนชนเผ่าเมารีเชื่อว่าถ้าฆ่ากบจะนำพามาซึ่งฝนตกหนักและน้ำท่วมใหญ่ แต่บางชนเผ่าในแอฟริกาก็เชื่อกลับกันว่าถ้าฆ่ากบจะนำพามาซึ่งความแห้งแล้งแทน และกบยังเกี่ยวข้องกับแม่มดอีกด้วย โดยกบถือว่าเป็นสัตว์รับใช้อย่างหนึ่งของแม่มดและเป็นส่วนประกอบของยาพิษที่แม่มดปรุงขึ้นอยู่เสมอ

ส่วนอีกความเชื่อหนึ่งที่พบได้ในหลายท้องถิ่นทั่วโลกรวมไปถึงในประเทศไทยด้วย ก็คือความเชื่อเรื่องกบร้องแล้วจะมีฝนตกตามมา ซึ่งนี่เป็นความเชื่อที่ดูเหมือนกับว่าจะฟังดูมีเหตุผลเนื่องจากกบเป็นสิ่งมีชีวิตที่ต้องอาศัยน้ำในการออกไข่ ดังนั้นจึงเป็นไปได้ว่าเมื่อฝนใกล้ตกก็จะมีความชื้นมากพอให้เหล่ากบส่งเสียงร้องเพื่อหาคู่นั่นเอง

ในตอนนี้กบอาจเป็นสัตว์ที่เราคิดว่าพบได้ทั่วไป แต่จริงๆ แล้วกบทั่วโลกกำลังลดลงอย่างหนักและต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งมาจากแหล่งที่อยู่อาศัยถูกทำลายและมลพิษในน้ำที่เพิ่มมากยิ่งขึ้น รวมไปถึงโรคระบาดในกบ อย่างกรณีกบสีทองปานามา ที่ในตอนนี้แทบไม่มีอยู่ในธรรมชาติแล้วเนื่องจากการแพร่ระบาดของเชื้อราจากทวีปอื่นที่ติดมากับมนุษย์

เชื่อกันว่ากบในที่ต่าง ๆ ทั่วโลกกำลังหายไป ราว 40 % ของกบสายพันธุ์ต่าง ๆ ทั้งหมดในโลกที่เรารู้จัก ด้วยภาวะสุ่มเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์นี้เอง ทำให้เมื่อปี 2008 ทาง องค์การสวนสัตว์และพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำโลก (WAZA) ได้กำหนดให้ปีนั้นเป็นแห่งกบ เพื่อช่วยให้คนทั่วไปตระหนักและสนใจต่อชะตากรรมของสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำชนิดนี้

เสียงร้องของกบที่ดังขึ้นอาจไม่น่ากลัวเท่าวันที่เราไม่ได้ยินเสียงกบร้องอีกแล้ว