Published on ISSUE 5
ผมไม่ได้พัฒนาสายพันธุ์เพื่อนำมาขาย และไม่ได้ตั้งใจเพื่อนำมาประกวดด้วย ผมอยากพัฒนาสายพันธุ์เพื่ออยากเห็นแมวในอุดมคติของผมออกมา

Big Cat, Big Love

เรื่องและภาพ : howl the team

ร่วมนั่งจับเข่าพูดคุยถึงชีวิตและการทำฟาร์มแมวพันธุ์เมนคูนของคุณภควต อิสรวาโย

ถ้ากล่าวถึงฟาร์มแมวพันธุ์เมนคูนในประเทศไทย ชื่อหนึ่งที่คุ้นหูในวงการคนเลี้ยงแมวพันธุ์นี้คงหนีไม่พ้นฟาร์ม “บ้านอลังการเมนคูน”

ผู้ก่อตั้งฟาร์มแห่งนี้ขึ้นมาคือคุณนัท – ภควต อิสรวาโย ซึ่งเริ่มต้นมาจากคนเลี้ยงแมวเมนคูนธรรมดาคนหนึ่ง ก่อนที่จะเริ่มหลงรักในหน้าตาและเสน่ห์ที่ไม่ธรรมดาของแมวพันธุ์นี้ จึงได้เริ่มลองผิดลองถูกเปิดเป็นฟาร์มบ้านอลังการเมนคูนแห่งนี้ขึ้นมา

เวลา 9 ปีที่ผ่านมาตั้งแต่เปิดฟาร์ม เราคิดว่าถ้าเปรียบฟาร์มแห่งนี้เป็นทหาร ก็คงเป็นทหารผ่านศึกประสบการณ์โชกโชนที่บนอกประดับไปด้วยเหรียญกล้าหาญหลากหลายแบบ เพราะฟาร์มบ้านอลังการเมนคูนแห่งนี้เคยผ่านสังเวียนการประกวดและกวาดรางวัลมาอย่างมากมาย โดยเฉพาะรางวัล International division award Asia Latin America ซึ่งทางฟาร์มได้ต่อเนื่องกันถึง 3 ปีซ้อน ซึ่งเป็นเครื่องการันตีได้อย่างดีถึงคุณภาพของแมวจากฟาร์มนี้

นอกจากจะเป็นเจ้าของและดูแลฟาร์มแมวพันธุ์เมนคูนคุณภาพแล้ว ในอีกแง่มุมหนึ่งคุณภควตยังเป็นคนที่ตั้งใจเลี้ยงแมวเมนคูนด้วยความรักและความเอาใจใส่อีกด้วย ซึ่งเป็นสิ่งที่เขาบอกว่าไม่ว่าจะทำฟาร์มหรือเลี้ยงแมวนี่คือสิ่งสำคัญที่ทุกคนต้องมี

ดังนั้นถ้าคุณพร้อมเราขอพาทุกท่านเข้าชมฟาร์มบ้านอลังการเมนคูน เพียงแต่หลังประตูบานนี้ไม่ได้มีเพียงแค่เมนคูนคอยต้อนรับเท่านั้น

หากแต่ยังมีเรื่องราวชีวิตที่ผ่านมา แนวคิด และความรักต่อแมวเมนคูนของชายคนนี้รอคอยคุณอยู่ด้วยเช่นกัน

คุณภควตเริ่มต้นชีวิตการทำฟาร์มเมนคูนจากการเริ่มต้นเป็นคนรักและชอบเลี้ยงสัตว์ เขาเล่าให้ฟังว่าก่อนหน้านี้เคยเลี้ยงสัตว์มาแล้วหลายชนิดก่อนที่จะมาจบลงที่แมวพันธุ์เมนคูน

“ความจริงผมเป็นโรคแพ้ขนแมวนะ”พอคุณภควตพูดแบบนี้ถึงกับทำให้เราตาโตด้วยความงุนงง “แต่พอดีเจอแมวของเพื่อนคนหนึ่ง จำได้ว่าเป็นแมวตัวใหญ่ พอเราไปเล่นแล้วรู้สึกแปลกใจ ทำไมแมวพันธุ์นี้ถึงขนร่วงน้อยจนขนาดเราแพ้ขนแมวยังสามารถทนได้ เลยถามว่านี่แมวพันธุ์อะไร เพื่อนก็บอกว่านี่คือแมวพันธุ์เมนคูน”

ด้วยเสน่ห์ทั้งความสง่างาม ขนาดตัวที่ใหญ่ และการร่วงของขนที่เป็นมิตรกับคนแพ้ขนแมว ทำให้คุณภควตเริ่มสนใจและหาข้อมูลเกี่ยวกับแมวพันธุ์นี้อย่างจริงจังในวันถัดมา และถัดจากนั้นไปอีกวันหนึ่งคุณภควตก็ตัดสินใจนำแมวเมนคูนจากต่างประเทศเข้ามาในประเทศไทย

“ตอนแรกผมไม่ได้ตั้งใจว่าจะนำเข้ามาทำฟาร์ม คิดเพียงแค่ว่าอยากเลี้ยงเล่นเฉยๆ พอเลี้ยงไปเรื่อยๆ ปรากฏว่ามีลูกออกมา ตอนนั้นก็ยังไม่คิดจะขาย แต่เมื่อเริ่มมีมากขึ้นเรื่อยๆ และเพื่อป้องกันการผสมกันเองในสายเลือดชิด เลยตัดสินใจขายออกไปและนี่เองเป็นจุดเริ่มต้นของการทำฟาร์ม”

เมื่อได้เริ่มต้นเลี้ยงและทำฟาร์มเมนคูนอย่างจริงจังแล้ว ในช่วงแรกคุณนัทได้ไปพูดคุยกับคนเลี้ยงแมวพันธุ์เมนคูนยุคแรกๆ อยู่เสมอเพราะสนใจคนที่เคยเลี้ยงมาก่อนว่ามีเคล็ดลับอย่างไร และเมื่อได้รู้จักกันเลยมีคนชวนไปร่วมงานแข่งขันประกวดแมวพันธุ์เมนคูน

“ตอนแรกผมบอกก่อนเลยว่าผมไม่เคยประกวดมาก่อน ไม่รู้ต้องทำอย่างไรด้วยซ้ำ”คุณภควตหัวเราะอย่างอารมณ์ดี “โชคดีที่มีเพื่อนคอยช่วยแนะนำให้ พอไปประกวดปรากฏว่าเราได้อันดับสองของการประกวดแมว International division award Asia Latin America และหลังจากนั้นก็ได้ไปประกวดอีกและได้รับรางวัลนี้อีก 2 ครั้ง กลายเป็นว่าเรามีแมว 3 ตัวที่ได้รางวัลในแต่ละปี ซึ่งเป็นสิ่งที่ประทับใจมาก”

 

IMG_2686

 

แต่หลังจากที่ได้ผ่านสังเวียนงานประกวดมาหลายที่ คุณภควตก็เริ่มรู้สึกถึงจุดอิ่มตัว เขาเริ่มรู้สึกว่าอยากลองเพาะพันธุ์และเลี้ยงแมวในรูปแบบลักษณะที่เขาชอบมากกว่าที่จะต้องเพาะพันธุ์แมวให้มีหน้าตาแบบเดียวกับที่กรรมการต้องการ

“ผมไม่ได้พัฒนาสายพันธุ์เพื่อนำมาขาย และไม่ได้ตั้งใจเพื่อนำมาประกวดด้วย ผมอยากพัฒนาสายพันธุ์เพื่ออยากเห็นแมวในอุดมคติของผมออกมา” คุณภควตกล่าวถึงความตั้งใจในการปรับปรุงสายพันธุ์เมนคูนภายในฟาร์ม “เพราะการประกวดคือการที่กลุ่มคนกลุ่มหนึ่งคิดว่าลักษณะแมวแบบนี้คือลักษณะแมวที่ถูกต้อง หูกับตาต้องห่างกันเท่านี้ๆ แต่ถ้าผมเห็นต่างล่ะ ผมไม่ได้ชอบอย่างที่คุณชอบแบบนี้หมายความว่าผมผิดอย่างนั้นหรือ หลังๆ ผมจึงไม่ค่อยประกวด เพราะผมมีความเห็นแตกต่าง และถ้าให้ผมตามกระแสที่คนอื่นคิดว่าสวย ผมคิดว่าความคิดเห็นของเราคงสวนทางกัน เลยออกมาจากทางสายประกวดดีกว่า เพราะผมเป็นคนเลี้ยงแมว ผมอยากเลี้ยงแมวที่คิดว่าตัวเองสวย ทำไมผมต้องเลี้ยงแมวที่คนอื่นคิดว่าสวยด้วย”

ด้วยการปรับปรุงสายพันธุ์เมนคูนของทางฟาร์มบ้านอลังการ ทำให้เมนคูนที่มาจากฟาร์มแห่งนี้มีรูปแบบเฉพาะ โดยคุณภควตบอกว่าสามารถจำแนกหลักๆ ได้ 3 แบบคือ แบบหมาป่า แบบหมี และแบบสิงโต ตามลักษณะหน้าและขนที่แตกต่างกัน ซึ่งพอคุณภควตโชว์รูปของแต่ละแบบให้เราดู เราก็เข้าใจเพราะเมนคูนแต่ละสายนั้นมีหน้าตาคล้ายสัตว์แต่ละแบบจริงๆ

ด้วยความที่เน้นคุณภาพมากกว่าปริมาณ ทำให้ฟาร์มบ้านอลังการเมนคูนไม่ได้เน้นต้องมีพ่อแม่แมวพันธุ์มาก หากแต่เน้นไปที่คุณภาพมากกว่า กลายเป็นฟาร์มที่จิ๋วแต่แจ๋ว โดยเฉพาะการจัดการในฟาร์มแมวเพื่อให้แมวภายในฟาร์มทุกตัวสะอาดและปลอดโรค

“เวลาผมเลี้ยงแมวเป็นฟาร์ม ผมเน้นเรื่องความสะอาด เรื่องโรค เราไม่สามารถปล่อยปละละเลยสิ่งเหล่านี้ได้ และฟาร์มผมไม่ได้เป็นฟาร์มใหญ่ ผมอยากให้ที่นี่เป็นฟาร์มขนาดเล็กแต่มีคุณภาพ และที่สำคัญคือผมไม่ได้ทำฟาร์มเป็นอาชีพ แต่ผมคิดว่าผมเลี้ยงแมวเป็นงานอดิเรกมากกว่า”

แม้ว่าตอนนี้ฟาร์มบ้านอลังการเมนคูนจะเป็นฟาร์มแมวเมนคูนอันดับต้นๆ ของประเทศไทย แต่กว่าคุณภควตจะมาถึงจุดนี้ได้เขาก็ต้องเรียนรู้และลองผิดลองถูกมากมาย และที่สำคัญคือต้องทุ่มเทให้กับการเลี้ยงพวกเขาจริงๆ

“หลังจากที่เปิดเป็นฟาร์มแล้วเราต้องดูแลพวกเขาอยู่ตลอด”คุณภควตเล่าชีวิตของเขาที่เปลี่ยนไปหลังเลี้ยงเมนคูนให้เราฟัง “ผมไม่ได้ไปไหนเลยนะ ต้องอยู่ดูตลอด และที่สำคัญคือผมจะทำคลอดแมวทั้งหมดเอง และในช่วง 10 วันแรกผมจะตื่นทุก 2 ชั่วโมง เพื่อมาดูว่ามีแม่แมวทับลูกไหม ลูกกินนมพอหรือเปล่า”

ด้วยประสบการณ์การเลี้ยงเมนคูนกว่า 9 ปี ทำให้คุณนัทได้ตัดสินใจเปิดเว็บไซต์เพื่อบอกเล่าเรื่องราวและเคล็ดลับการเลี้ยงเมนคูนให้กับคนเลี้ยงมือใหม่ได้รู้ต่อไป

“ผมมีเว็บไซต์ที่บอกถึงเทคนิคการเลี้ยงเล็กน้อยๆที่มาจากประสบการณ์การเลี้ยงของผมให้คนที่เลี้ยงเมนคูนได้มาศึกษา สิ่งที่ผมเคยผิดพลาดมาก่อน มีคนโทรมาปรึกษาผมเยอะ ผมเข้าใจถึงความรู้สึกของคนที่สูญเสียแมว บางครั้งถ้ามีคนขอไปให้ผมช่วยทำคลอดผมก็ไปนะ บางครั้งตีสองผมยังช่วยเขาทำคลอดอยู่เลย”

ตลอดการสนทนากับเราคุณภควตบอกกับเราเสมอว่าเขาไม่คิดว่าตัวเขาเป็นคนขายแมว ส่วนคนที่ซื้อแมวจากเขาเป็นลูกค้า เขาย้ำเสมอว่าสำหรับเขาแล้วคนเลี้ยงแมวถือว่าเป็นเพื่อน และพร้อมให้คำปรึกษาช่วยเหลือกันอยู่เสมอ และที่สำคัญคือเขายังคงไปเยี่ยมบ้านของแต่ละคนที่ซื้อแมวจากเขาไปอยู่เรื่อยๆ เพื่อดูว่าแมวแต่ละตัวนั้นเป็นอย่างไรบ้างแล้ว และได้แลกเปลี่ยนเรื่องราวดีๆ ระหว่างคนเลี้ยงแมวด้วยกันของแต่ละคนอีกด้วย

“ผมพยายามเป็นเพื่อนกับคนที่มาซื้อแมวของผมทุกคน ผมอยากเรียนรู้แนวคิดของแต่ละคน  ผมไปเจอคนอื่นๆ เพื่อที่จะเรียนรู้ในสิ่งที่แตกต่าง ผมบอกกับคนที่ซื้อแมวจากผมทุกคนเลยว่าขออนุญาตไปเยี่ยมแมวนะ และไปเยี่ยมอยู่ตลอด ทุกครั้งที่ไปเยี่ยมบ้านเขาแล้วเห็นคนที่ซื้อแมวจากฟาร์มเราไปอยู่กับแมวอย่างมีความสุข…”

“แค่นี้ผมก็มีความสุขแล้ว”