Published on ISSUE 2
เวลาเราเห็นคอร์กี้แล้วรู้สึกเหมือนกับว่าเป็นอะไรที่แปลกตาและน่ารัก โดยเฉพาะกิริยาตอนวิ่งที่เหมือนกับกระต่าย และลักษณะที่เหมือนรวมสุนัขหลายพันธุ์มา อีกทั้งนิสัยก็น่ารักเป็นมิตร ไม่สร้างปัญหามากมาย

Happy, Lovely and Corgi

เรื่องและภาพ : howl the team

Happy, Lovely and Corgi : เรื่องราวความสุขของชีวิตเจ้าของฟาร์ม Corgi Indy Dog ผู้บุกเบิกการสร้างฟาร์มสุนัขพันธุ์คอร์กี้ในประเทศไทย

 

ต้นเดือนพฤษภาคม หลังจากที่ได้ติดต่อขอสัมภาษณ์เรียบร้อยแล้ว ทางทีมงานได้เริ่มต้นการเดินทางจากถนนวิภาวดีมุ่งหน้าสู่ฟาร์ม Corgi Indydog ฟาร์มสุนัขคอร์กี้ที่พิเศษไม่เหมือนใคร ซึ่งอยู่ห่างจากสามชุกตลาดร้อยปี จ.สุพรรณบุรี ประมาณ 14 กิโลเมตร ท่ามกลางอากาศร้อนระอุและแสงแดดเจิดจ้า เมื่อไปถึงฟาร์ม สิ่งที่เราพบเป็นสิ่งแรกคือบ้านที่ปลูกสร้างและออกแบบเพื่อน้องหมาคอร์กี้โดยเฉพาะ แม้อากาศจะยังร้อนจัด แต่ความร่มรื่นจากต้นไม้น้อยใหญ่ภายในฟาร์มและการต้อนรับที่เป็นกันเองของเจ้าของฟาร์มช่วยให้เราคลายร้อนไปได้มากทีเดียว โดยเจ้าของฟาร์ม คือ คุณเทอดศักดิ์ และคุณนพรัตน์ หรือครูมุก ซึ่งเป็นครูสอนอยู่โรงเรียนประจำอำเภอสามชุก เป็นผู้ก่อสร้างฟาร์มเลี้ยงสุนัขคอร์กี้แห่งนี้ด้วยใจรัก โดยก่อนที่จะมาเลี้ยงสุนัขพันธุ์คอร์กี้นั้น ครูมุกบอกว่าเคยเพาะเลี้ยงสุนัขมาแล้วหลายพันธุ์ เธอบอกว่าเปรียบเทียบแล้วเหมือนกับคบแฟนแล้วดูใจกันมาเรื่อยๆ จนในที่สุดก็มีคอร์กี้เป็นรักสุดท้าย

“โดยส่วนตัวมีประสบการณ์การทำฟาร์มเลี้ยงสุนัขมานาน เริ่มจากการเลี้ยงโกลเด้น รีทรีฟเวอร์ ชิสุ ปอมเปอร์เรเนียน ไซบีเรียน ฮัสกี้ บีเกิ้ล และมาลงเอยที่คอร์กี้ อุปมาไปแล้วเหมือนการคบแฟน ดูใจมาหลายพันธุ์ แต่สุดท้ายแล้วก็เลือกแต่งงานกับคอร์กี้ เพราะความน่ารัก ลงตัว ฉลาดแสนรู้ มีเสน่ห์ สร้างความสุขและรอยยิ้มเสมอ”

จุดเริ่มต้นการเลี้ยงสุนัขพันธุ์คอร์กี้ของครูมุกนั้นเริ่มต้นมาจากการได้พบ “เจ้าโหลด” สุนัขพันธุ์ทาง เพศเมียที่หลงทางมาขออาศัยอยู่ด้วย เจ้าโหลดมีลักษณะรูปร่างคล้ายคอร์กี้ แต่ตัวสูงกว่าเล็กน้อยและมีหางยาว เลี้ยงอยู่ด้วยกันมานานจนกระทั่งวันหนึ่ง เจ้าโหลดได้ต่อสู้กับงูที่เข้ามาในบ้านกัดงูจนตายแต่ก็โดนพิษงูด้วยเช่นกัน และได้ตายในเวลาต่อมาประหนึ่งว่าเขาได้ทำหน้าที่ปกป้องเจ้านายสำเร็จแล้ว ด้วยความรักและประทับใจเจ้าโหลด เมื่อครูมุกเจอสุนัขพันธุ์คอร์กี้ ซึ่งมีลักษณะคล้ายกันมาก ครูมุกจึงตั้งใจเริ่มเลี้ยงคอร์กี้อย่างจริงจัง ตั้งแต่ปี 2548 โดยซื้อพ่อแม่พันธุ์คอร์กี้มาจาก Nice Family Farm จ.ชัยนาท และสายนำเข้าจากญี่ปุ่น จากคอกทุนคึ จ.ปทุมธานี โดยทั้งสองสายนี้นับเป็นสายเริ่มต้นของฟาร์มแห่งนี้

“สุนัขคอร์กี้เป็นสุนัขสายพันธุ์ที่มีน้อยในประเทศไทย ทำให้พัฒนาสายพันธุ์ยาก ปัจจุบันเราพยายามนำเข้าสายพันธุ์แชมป์จากต่างประเทศมา หลีกเลี่ยงการผสมเลือดชิด เพื่อป้องกันปัญหาลักษณะด้อยที่ออกมา โดยเมื่อปีที่ผ่านมาเรานำเข้าพ่อแม่พันธุ์สายเลือดแชมป์มาเพิ่มอีก 7 ตัว จากทางเอเชียและยุโรป” ครูมุกอธิบายให้เราฟังเกี่ยวกับพ่อแม่พันธุ์คอร์กี้ภายในฟาร์ม

เมื่อถามถึงเสน่ห์ของสุนัขพันธุ์คอร์กี้ที่ทำให้คุณมุกตกหลุมรักนั้น คุณมุกได้บอกว่าสุนัขพันธุ์คอร์กี้เป็นสุนัขที่มีเสน่ห์ไม่เหมือนใคร ด้วยรูปลักษณ์ที่เป็นสุนัขหน้ายิ้ม และมีหน้าเด็กอยู่ตลอดทุกวัย จนเดาอายุของคอร์กี้ได้ยาก นอกจากนี้ยังมีความโดดเด่นตรงตัวเตี้ย ขาสั้น ตัวยาวตัน หูตั้ง หางกุด พาไปไหนก็มีแต่คนสนใจมาทักทายขอถ่ายรูปเสมอๆ และที่สำคัญที่สุดคือคอร์กี้เป็นสุนัขที่เป็นมิตร รักเจ้านาย รักครอบครัว เข้ากับทุกคนและสัตว์เลี้ยงในบ้านได้ดี

“เวลาเราเห็นคอร์กี้แล้วรู้สึกเหมือนกับว่าเป็นอะไรที่แปลกตาและน่ารัก โดยเฉพาะกิริยาตอนวิ่งที่เหมือนกับกระต่าย และลักษณะที่เหมือนรวมสุนัขหลายพันธุ์มาก อีกทั้งนิสัยก็น่ารักเป็นมิตร คนที่ซื้อคอร์กี้ไปเลี้ยงมักจะถูกใจและประทับใจ เพราะคอร์กี้เป็นเพื่อนที่แสนดี บางตัวจะเฝ้าติดตามเจ้าของไปทุกที่ของบ้านไปหมอบคลานนอนอยู่ใกล้ๆ ไม่เว้นแม้กระทั่งเวลาเข้าห้องน้ำ อีกทั้งยังช่วยเฝ้าบ้านและคลายเหงาให้ผู้สูงวัยได้เป็นอย่างดีอีกด้วย”

ส่วนการเลี้ยงสุนัขพันธุ์คอร์กี้ที่เป็นสุนัขเมืองนอกในประเทศไทยที่เป็นประเทศเมืองร้อนนั้น คุณครูมุกบอกว่าต้องใช้เทคนิคและการดูแลเอาใจใส่สูงเลยทีเดียว โดยมีสิ่งที่ควรระวังเป็นอย่างยิ่ง คือ คอร์กี้มีนมให้ลูกน้อย ทำให้ต้องเสริมนมให้ลูกคอร์กี้ทุก 2 – 3 ชั่วโมง ตลอดทั้งกลางวันกลางคืน เพราะถ้าเลยระยะเวลาให้นมแล้วลูกคอร์กี้อาจจะท้องอืดได้ รวมไปถึงได้รับน้ำนมไม่ต่อเนื่องด้วย นอกจากนี้อากาศเย็นก็เป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับลูกคอร์กี้เป็นอย่างมากอีกด้วย

“ตอนเด็กๆ ลูกคอร์กี้ต้องการอากาศเย็นสบาย โดยเฉพาะ 50 วันแรก ในช่วงนี้ลูกสุนัขทนอากาศร้อนได้น้อย แต่ถ้าโตเต็มวัยแล้วก็จะสามารถอยู่ในอุณหภูมิปกติของบ้านเราได้ เราจึงเตรียมห้องปรับอากาศให้ลูกคอร์กี้โดยเฉพาะเลยทีเดียว”

สำหรับครูมุกแล้ว ความสุขและประทับใจในการทำฟาร์มคอร์กี้คือการที่ได้เห็น ได้ฟังเรื่องเล่าที่น่าประทับใจระหว่างเจ้านายใหม่กับคอร์กี้ของทางฟาร์ม และเห็นพัฒนาการของลูกสุนัขคอร์กี้ที่ลูกค้าถ่ายรูปส่งกลับมาให้ ซึ่งแสดงถึงความรัก เอาใจใส่ ผูกพันเหมือนเป็นสมาชิกในครอบครัว แน่นอนว่าสิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อผู้เลี้ยงสุนัขคนนั้นมีความรัก ซึ่งเป็นสิ่งที่ครูมุกบอกว่าสำคัญที่สุดในการที่จะคิดเลี้ยงสุนัขซักตัว

“สิ่งแรกสำหรับคนเลี้ยงสุนัขที่ต้องมีเลยคือความรัก ถ้าเรามีความรักเป็นที่ตั้งแล้ว ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเราก็ยังยอมรับได้ ให้อภัยกันได้ ไม่ว่าสุนัขที่เราเลี้ยงจะเป็นอย่างไร ไม่สวย ไม่น่ารักแล้ว เราก็ยังรักเขาได้”

“และเราควรเตรียมความพร้อมก่อนการเลี้ยง อยากให้ระลึกเสมอว่าสุนัขเป็นสิ่งมีชีวิต ไม่ใช่ตุ๊กตา ดังนั้นสุนัขจึงอาจดื้อ ซน ทำสกปรกเลอะเทอะได้ ถ้าเราจะเลี้ยงสุนัขซักตัวอยากให้คิดว่าเหมือนกับเราเลี้ยงลูกคนหนึ่ง ความน่ารักนั้นมักมาพร้อมกับความรับผิดชอบเสมอ ถ้าขาดความพร้อมเราคงไม่มีความสุขในการเลี้ยง และความลำบากทั้งหมดก็จะไปตกอยู่กับน้องหมาที่ไม่มีความผิดอะไรด้วยเลย”

จริงอยู่ที่ว่าฟาร์ม Corgi IndyDog นั้นอาจจะไม่ใช่ฟาร์มสุนัขที่ใหญ่โตนัก แต่ด้วยความที่คุณนพรัตน์ หรือคุณครูมุก ได้ทำที่นี่ขึ้นมาด้วยใจรัก ทำให้ฟาร์มแห่งนี้เหมือนกับสิ่งที่เติมเต็มความสุขของเธอ และเธอบอกว่าอีกเรื่องที่น่าดีใจคือลูกคอร์กี้ที่ออกมาจากฟาร์มแห่งนี้เองก็เป็นสิ่งเติมเต็มความสุขให้กับคนอื่นด้วยเช่นกัน

“ทุกวันนี้เราทำงานนี้อย่างมีความสุข เพราะว่าเราได้อยู่กับสุนัขที่เรารัก และความสุขอีกอย่างหนึ่งของเราคือการได้เห็นลูกค้ามีความสุขกับลูกสุนัขคอร์กี้ของเรา อย่างที่เคยบอกไปแล้วว่ามีคนที่ซื้อคอร์กี้จากฟาร์มเราไปส่งรูปถ่ายคอร์กี้กับครอบครัวของเขากลับมาให้ดูอยู่บ่อยๆ ว่าทั้งคอร์กี้และครอบครัวเขาอยู่กันอย่างมีความสุขนะ อะไรแบบนั้น หลายคนก็มาขอบคุณเราว่าทำให้ครอบครัวของเขามีความสุข ซึ่งนี่เป็นสิ่งที่เราดีใจมาก”

ครูมุกกล่าวปิดท้ายด้วยรอยยิ้ม ที่เรารู้ว่าเป็นรอยยิ้มที่มาจากความสุขอย่างแน่นอน