Published on ISSUE 14
สิ่งที่ Maned wolf แตกต่างจากหมาป่าอื่นๆ ก็คือพวกมันเป็นนักล่าผู้โดดเดี่ยว มันจะไม่อยู่รวมเป็นฝูงเพื่อการหาอาหาร นั่นก็เพราะอาหารหลักของพวกมันคือผัก ผลไม้ และพวกสัตว์มีกระดูกสันหลังขนาดเล็กที่ไม่ต้องใช้เรี่ยวแรงในการไล่ล่ามากนัก

Maned Wolf : นักล่าขายาวจากบราซิล

เรื่อง howl the team ภาพ : ชาพีช

ครั้งแรกที่ได้เห็นพวกมัน เชื่อว่าทุกท่านจะต้องนึกฉงนกับรูปร่างหน้าตาอันราวกับว่าสัตว์สี่ขาในตระกูลสุนัขชนิดนี้น่าจะมีที่มาจากการผสมปนเประหว่างหมาป่า หมาจิ้งจอก และฮายีน่า แต่ทว่าความจริงแล้ว พวกมันไม่ใช่ทุกสิ่งที่กล่าวมาข้างต้นเลย วงศ์ของพวกมันได้แยกสายวิวัฒนาการออกมาจากทั้งหมาจิ้งจอกและหมาป่าเมื่อนานมาแล้ว แต่ถึงกระนั้น ถ้าลงลึกไปในระดับ DNA พวกมันก็ยังมีความคล้ายคลึงกับหมาป่าอยู่ดี ก็เลยยังคงมีคำว่า wolf ต่อท้ายชื่อของพวกมันไว้

Maned wolf เป็นนักล่าที่ขายาวที่สุดในโลก สามารถวัดความสูงจากหัวไหล่ถึงปลายเท้าได้มากถึง 35 นิ้วในตัวที่โตเต็มวัย ที่เป็นเช่นนี้ ก็เพราะพวกมันต้องปรับตัวให้เข้ากับทุ่งหญ้าที่เต็มไปด้วยพุ่มไม้สูงในแถบตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศบราซิล เรื่อยไปจนถึง โบลิเวีย เปรู ปารากวัย และอาร์เจนตินา ในทวีปอเมริกาใต้ พวกมันมีขนสีน้ำตาลแดง มีใบหูขนาดใหญ่ที่ด้านในเป็นสีขาว มีถุงเท้าดำสี่ข้าง และจุดเด่นอันเป็นที่มาของชื่อ Maned wolf ก็คือขนแผงคอด้านหลังสีดำ ที่จะชูชันขึ้นเวลาต้องการจะขมขู่คู่ต่อสู้นั่นเอง

อีกหนึ่งสิ่งที่ Maned wolf แตกต่างจากหมาป่าอื่นๆ ก็คือพวกมันเป็นนักล่าผู้โดดเดี่ยว มันจะไม่อยู่รวมเป็นฝูงเพื่อการหาอาหาร นั่นก็เพราะอาหารหลักของพวกมันคือผัก ผลไม้ และพวกสัตว์มีกระดูกสันหลังขนาดเล็กที่ไม่ต้องใช้เรี่ยวแรงในการไล่ล่ามากนัก อาณาเขตหากินของ Maned wolf แต่ละตัวอาจกว้างถึง 15 ตารางไมล์ โดยพวกมันจะใช้กลิ่นปัสสาวะที่เหม็นฉุนคล้ายกับกลิ่นกัญชา เป็นเครื่องหมายประกาศอาณาเขตของตน แต่ถึงกระนั้น ในเดือนเมษายนถึงมิถุนายนก็เป็นช่วงเวลาที่พวกมันต้องการใครสักคนมาเป็นคู่ชีวิตเหมือนกัน Maned wolf เพศเมียจะใช้เวลาตั้งท้องนาน 62-66 วันเพื่อคลอดลูกจำนวน 1-5 ตัวต่อครอก ลูกๆ ของพวกมันจะมีขนสีน้ำตาลเข้ม แต่ก็ยังคงมีแผงคอสีดำให้เห็นได้ตั้งแต่เด็ก

ในปัจจุบัน Maned wolf จัดเป็นอีกหนึ่งในสปีชีส์หายากที่ต้องการการอนุรักษ์ เนื่องจากคาดว่าน่าจะเหลือพวกมันอยู่ในธรรมชาติเพียงแค่ราว 17,000 ตัวเท่านั้น อีกทั้งยังมีการลดลงของจำนวนประชากรถึง 20% ในช่วง 15 ปีที่ผ่านมา ถึงแม้ว่าพวกมันจะก่อให้เกิดความขัดแย้งจากการเข้าไปสร้างความเสียหายให้กับฟาร์มเลี้ยงไก่ของชาวบ้านอยู่บ้าง แต่สาเหตุหลักของการลดลงนี้กลับมาจากการที่ที่อยู่ของพวกมันตามธรรมชาติถูกคุกคามจากฝีมือมนุษย์ ท้องทุ่งกว้างใหญ่ที่พวกมันเคยอาศัย กำลังค่อยๆ กลายเป็นเรือกสวนไร่นาไปทีละน้อยๆ ไม่แน่ว่าในอนาคตอันใกล้ เราอาจได้เห็นพวกมันได้แค่ในสวนสัตว์เท่านั้น