Published on ISSUE 14
แม้จะภาพลักษณ์ในเรื่องของความเจ้าเล่ห์และนิสัยไม่ดีดังกล่าว แต่พวก Coyote เองก็มีพฤติกรรมในการรวมฝูงล่าเหยื่อ และนิสัยการใช้ชีวิตที่แทบไม่ต่างจากหมาป่าเกรย์วูฟที่แสนกล้าหาญและสง่างามเลย

Coyote : ที่มาของ “หมาป่าเจ้าเล่ห์”

เรื่อง howl the team ภาพ : ชาพีช

หากยึดตามตำนานเก่าของชนเผ่าพื้นเมืองอเมริกันแล้ว มีสุนัขป่าอยู่ชนิดหนึ่งที่ถูกเชื่อว่าเป็นผู้ขโมยไฟนำมาให้มนุษย์ใช้เป็นครั้งแรก พวกมันขึ้นชื่อกว่าใครในเรื่องความเจ้าเล่ห์ จนมักได้รับบทเป็นผู้ร้ายในนิทานปรัมปราหลายเรื่อง และในวัฒนธรรมแองโกล-อเมริกัน พวกมันก็กลายเป็นสัญลักษณ์แห่งความขี้ขลาดและไม่น่าเชื่อถือยิ่ง นักล่าที่เรากำลังพาดพิงถึงนี้ ก็คือ Coyote ที่ทุกคนรู้จักชื่อกันดีอยู่แล้วนั่นเอง

แม้จะถูกครอบงำด้วยทัศนะทางด้านลบดังกล่าว แต่พวก Coyote เองก็มีพฤติกรรมในการรวมฝูงล่าเหยื่อ และนิสัยการใช้ชีวิตที่แทบไม่ต่างจากหมาป่าเกรย์วูฟที่แสนกล้าหาญและสง่างามเลย พวกมันคือผู้ยึดครองถิ่นที่อยู่แทบจะทั้งทวีปอเมริกาเหนือ ตั้งแต่คลองปานามาขึ้นไปจนถึงทางเหนือของอลาสก้า หรือราวเส้นละติจูดที่ 8 ถึง 70 องศาเหนือ ซึ่งครอบคลุมภูมิประเทศทั้งที่เป็นทุ่งหญ้าแพรี่ ภูเขาสูง และป่าฝน ้นั่นจึงทำให้สุนัขนักล่าอย่าง Coyote มีความแตกต่างหลากหลายทั้งขนาดและสีขนตามแต่ละพื้นที่ที่อาศัยอยู่ โดยพวกที่อยู่ทางตอนเหนือมักจะมีสีขนที่เข้มกว่า

ในฤดูใบไม้ผลิ หมาป่า Coyote จะคลอดลูกภายในรัง คือตามโพรงไม้เก่า หรือตามเนินเขาลาดชันที่ปกคลุมด้วยก้อนหินและพุ่มไม้ จากนั้นพวกมันจะใช้รังนี้เป็นที่เลี้ยงลูกราว 2-3 เดือนแล้วจึงจากไป พวกมันหาอาหารด้วยการล่าเหยื่อกันเป็นกลุ่มเล็กหรือเป็นฝูงใหญ่ อาหารของพวกมันก็หลากหลายไม่แพ้กัน มีทั้งผลไม้ แมลง ไปจนถึงสัตว์กีบ และแพะแกะที่มนุษย์เลี้ยงไว้ จึงทำให้เกิดข้อพิพาทระหว่างชาวบ้านผู้เลี้ยงสัตว์กับสุนัขนักล่าอยู่เนืองๆ

อย่างไรก็ตาม การลดลงของจำนวนประชากร Coyote ในธรรมชาติในปัจจุบันมีที่มาจากหลายสาเหตุ ทั้งการแพร่ขยายอาณาเขตการหากินจนทำให้ความหนาแน่นของประชากรลดลง ทั้งจากการล่าเพื่อเอาขนและหนังสัตว์ และทั้งจากการผสมข้ามพันธุ์กับสุนัขบ้านจนทำให้สายเลือดแท้ถูกเจือจางไป แต่ทั้งหมดก็ไม่ได้ทำให้หมาป่านักล่าเจ้าเล่ห์สายพันธุ์นี้ถูกจัดอยู่ในกลุ่มเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์แต่อย่างใด