“10 ปีแห่งการสงครามที่กรุงทรอย และอีก 10 ปีในการเดินเรือฝ่าฟันอุปสรรคและการผจญภัยต่างๆ นานา
ในที่สุด วีรบุรุษโอดิสซิอุส ก็ได้กลับมาเยือนบ้านเกิดที่นครอิธากาอีกครั้ง เขาซ่อนกายอยู่ภายใต้ผ้าคลุมขอทาน เพื่อปิดบังไม่ให้เหล่าคนพาลที่พยายามจะมาขอวิวาห์กับเพเนโลปภรรยาของเขาไหวตัวได้ทัน ในตลอดระหว่างทางเดินกลับบ้าน ไม่มีใครที่สามารถจดจำโอดิสซิอุสได้เลย เว้นก็แต่อาร์กอส สหายสุนัขผู้ซื่อสัตย์ที่เขาจากมันไปตั้งแต่เมื่อ 20 ปีก่อน สุนัขที่เคยเป็นนักแกะรอยชั้นเลิศ ฝีเท้าดี และมีกำลังวังชาแข็งกล้าไม่แพ้ผู้ใด มาบัดนี้มันเฒ่าชรา อ่อนล้า จนว่ามีสภาพราวไม้ใกล้ฝั่งก็ไม่ปาน มันนอนหมอบนิ่งสงบอยู่ริมถนน
แต่ทว่า…ทันใดที่โอดิสซิอุสเดินใกล้เข้ามา อาร์กอสก็สามารถจดจำเจ้านายของมันได้ทันที ทว่ามันไม่เหลือเรี่ยวแรงพอจะลุกขึ้นมาทักทายนายของมันได้อีกแล้ว จึงได้แต่กระดิกหางและทำหูลู่เพื่อแสดงความเคารพครั้งสุดท้าย โอดิสซิอุสจำต้องเดินผ่านมันไป พลางฝืนกลืนน้ำตาแห่งความซาบซึ้งใจไว้เพียงลำพัง
และอาร์กอสก็ได้สิ้นใจหลังจากการพบกันครั้งสุดท้าย ณ ที่แห่งนั้นเอง”
เรื่องราวข้างต้น เป็นส่วนหนึ่งของมหากาพย์โอดิสซีย์ ที่ประพันธ์โดยยอดกวีเอก “โฮเมอร์” แห่งอาณาจักรกรีกโบราณ เมื่อราว 800 ปีก่อนคริสตกาล มาถึงตอนนี้ท่านผู้อ่านคงเดาได้ไม่ยากว่า “อาร์กอส” สุนัขผู้ซื่อสัตย์ที่ปรากฎนาม ก็คือสุนัขสายพันธุ์ Greyhound นั่นเอง
พวกมันเป็นหนึ่งในสายพันธุ์สุนัขที่เก่าแก่ที่สุดในโลก หลักฐานโบราณที่สุดพบอยู่ที่สุสานแห่ง Amten ริมฝั่งแม่น้ำไนล์ ประเทศอียิปต์ ซึ่งมีอายุถึง 2,900 ปีก่อนคริสตกาล แต่แท้จริงแล้ว บรรพบุรุษของพวกมันมาจากสุนัขสายพันธุ์ Vetragus แห่งอาณาจักรกรีก ดังปรากฎในภาคผนวกของตำรา Cynegeticon (ตำราแห่งการใช้สุนัขล่าสัตว์) ที่เขียนขึ้นโดยนักประวัติศาสตร์และนักปรัชญา Arrian พวกมันเป็นหนึ่งในสุนัขกลุ่ม sighthound หรือ gazehound คือสุนัขที่ออกล่าโดยใช้ประสาทการมองเห็นเป็นหลัก แทนที่จะใช้การดมกลิ่นเหมือนสุนัขสายพันธุ์อื่นๆ และนี่ก็อาจเป็นแรงบันดาลใจให้โฮเมอร์นำไปสร้างเรื่องราวของอาร์กอส ผู้ที่สามารถจดจำโอดิสซิอุสได้ตั้งแต่แรกเห็นนั่นเอง
Greyhound เป็นสุนัขที่มีรูปร่างปราดเปรียวสมกับเป็นนักวิ่งฝีเท้าไว พวกมันสามารถเร่งความเร็วได้ถึง 70 กิโลเมตรต่อชั่วโมงโดยใช้ระยะทางเพียง 30 เมตร และด้วยช่องอกที่ลึกเหมาะแก่การหายใจขณะวิ่ง บั้นท้ายที่ลาดเอียงลง และเอวที่คอดกิ่วทำให้ไม่กีดขวางจังหวะการก้าวเท้า ด้วยนำปัจจัยทั้งหมดนี้มารวมกันได้ทำให้มันกลายเป็นสุนัขที่วิ่งเร็วที่สุดในโลก แถมยังเป็นเพื่อนคู่ใจและภักดี โดยมันมักจะคอยหมอบอยู่เคียงข้างเจ้านายอย่างสงบนิ่ง แต่ก็พร้อมจะออกวิ่งทันทีเมื่อได้รับคำสั่งทันที