เชื่อว่าทุกคนคงเคยดูภาพยนตร์ไทยเก่าๆ เกี่ยวกับพวกภูติผีปีศาจ ที่จะมีฉากแมวดำ ตาสีแดงน่ากลัว กระโดดข้ามโลงศพ พร้อมร้องเสียงแหลมดังลั่น แล้วจู่ๆ ฝาโลงศพก็ถูกดันขึ้นอย่างรุนแรงและศพก็ลุกขึ้นมาออกอาละวาด เที่ยวไล่หลอกหลอนผู้คนจนชุลมุนวุ่นวายไปหมด
จริงๆ แล้วความเชื่อเรื่องนี้มีที่มาจากความเชื่อของประเทศจีน ที่เชื่อกันว่าหากแมวสีดำได้กระโดดข้ามศพใดแล้ว ศพนั้นจะคืนชีพกลายเป็นผีร้ายคอยหลอกหลอนชาวบ้านคนอื่น ซึ่งในประเทศจีนจึงมีการแก้เคล็ดเรื่องนี้ด้วยการเอากรรไกรหรือเหล็กวางไว้บนอกศพ เพื่อเป็นการสะกดวิญญาณไม่ให้ลุกขึ้นมาด้วย
ส่วนในตำนานเก่าแก่ของอินเดียก็เชื่อว่าแมวดำเป็นสัตว์ที่เกี่ยวข้องกับความตายและวิญญาณร้ายเช่นกัน โดยแมวดำนั้นถือว่าเป็นพาหนะของพระษัษฐี เทวีแห่งความตายของทารกหรือผีแม่ประจำตัวเด็กนั่นเอง เล่ากันว่าหากใครพบแมวดำในทุกวันที่ 6 จะพบกับพระษัษฐีปรากฏกายพร้อมมีเด็กหรือคนตาย ณ ที่นั่นด้วยเช่นกัน อีกทั้งคนอินเดียโบราณก็ยังเชื่ออีกว่าหากมีแมวดำมาสัมผัสหรืออยู่ใกล้ศพ จะทำให้เกิดมลทินกับศพนั้นตลอดไป
สาเหตุที่ในหลายๆ ชนชาติรวมถึงในประเทศไทยเชื่อว่าแมวดำเป็นสัตว์อัปมงคลนั้น น่าจะมาจากความเชื่อเรื่องสีดำที่เชื่อว่าเป็นสีแห่งความตายและโชคร้าย ทำให้แมวซึ่งเป็นสัตว์ที่มีท่าทางลึกลับน่ากลัวอยู่แล้วและมีสีดำด้วย เลยเป็นที่หวาดกลัวของคนทั่วไป พอเวลาผ่านไปก็กลายเป็นเรื่องเล่าความเชื่อต่างๆ ตามมา ส่วนความเชื่อเรื่องแมวดำกับความตายในประเทศไทยนั้น นักวิชาการเชื่อว่าน่าจะได้รับอิทธิพลมาจากทั้งจีน อินเดีย และตะวันตก ตอนยุคหลังที่ไทยพัฒนาเริ่มมีปฏิสัมพันธ์กับนานาชาติมากขึ้นนั่นเอง
เพราะหากเรายึดตามหลักฐานในตำราโบราณ ทั้งตำราดูแมวสมัยอยุธยาหรือที่บันทึกบนสมุดข่อยในช่วงต้นรัตนโกสินทร์ของไทยแล้ว จะพบว่าคนไทยสมัยก่อนเชื่อกันว่าแมวดำเป็นแมวที่บันดาลโชคลาภและเงินทองให้กับผู้เลี้ยงได้เช่นกัน ดังโคลงกลอนที่กล่าวไว้ว่า “แมวดำปลอดตลอดล้ำนั้น เลี้ยงไว้จะดีเป็นเสรฐีมีทรัพย์หลาย”
หากให้วิเคราะห์กันตามเป็นจริงแล้ว สาเหตุที่คนโบราณไม่อยากให้แมวกระโดดข้ามศพนั้น น่าจะเป็นเพราะว่าเป็นการกระทำที่เหมือนลบหลู่ผู้ตาย ส่วนสาเหตุว่าทำไมถึงเป็นแมวนั้นน่าจะเป็นเพราะว่าแมวเป็นสัตว์ที่พบได้ง่ายในวัด และยังเป็นสัตว์ที่เงียบ ว่องไว ปีนป่ายเก่ง จนอาจไปซ่อนอยู่บริเวณที่จัดงานศพ เลยทำให้เกิดเหตุการณ์แมวกระโดดข้ามโลงศพได้ง่าย อีกทั้งแมวอาจยังทำข้าวของในงานตกแตกเสียหาย จนทำให้คนขวัญอ่อนหลายคนเผลอคิดไปว่าเป็นพลังจากสิ่งเหนือธรรมชาติหรือวิญญาณร้ายก็ได้เช่นกัน
ดังนั้นหากเราพบแมวดำข้ามโลงศพ ตอนนี้ก็ขอให้อย่ากลัว แต่ขอให้ระวังเรื่องข้าวของเสียหายและพาน้องแมวไปวิ่งเล่นที่อื่นแทน เพราะแมวดำนั้นไม่ได้เกี่ยวอะไรกับความตายและโชคร้ายแต่อย่างใด
มีเพียงแค่มนุษย์อย่างเราที่แต่งแต้มเรื่องราวและเชื่อกันไปอย่างนั้นเอง
