Published on ISSUE 21
แค่ 28 นาทีแรกหลังจากได้พบกัน น้ำเมี่ยงก็ทำวีรกรรมสุดแสบด้วยการอึใส่เบาะรถของเราแล้ว เรียกว่าฝากกลิ่นไว้ไม่ลืมเลือนเรียบร้อย พอเจอแบบนี้เราก็รักเค้าเลย

Happy Family Day : เติมความสดใสกับ “น้ำเมี่ยง Family”

เรื่องและภาพ : howl the team

บีเกิ้ลช่างเป็นสุนัขที่มีพลังงานล้นเหลือ

ไม่ว่าใครก็คงคิดเช่นนี้เมื่อเห็นน้ำเมี่ยงและน้ำเงี้ยว บีเกิ้ลสุดน่ารักทั้งสองตัวกำลังวิ่งเล่นไล่จับกันอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย แต่ถ้าใครได้ติดตามแฟนเพจของน้องบีเกิ้ล 2 ตัวนี้มาคงทราบดีว่าความร่าเริงของน้องบีเกิ้ลทั้งสองตัวจากแฟนเพจชื่อดัง “น้ำเมี่ยง Family” นั้นได้มอบทั้งความสดใสและความสุขมากมายให้กับผู้เข้ามาชมจนไม่ว่าใครก็อดยิ้มเมื่อเห็นลีลาน่ารักและแสบซนของพวกเขาไม่ได้ การันตีด้วยยอดไลค์แฟนเพจกว่า 196,000 ไลค์แล้ว

คราวนี้เราได้มีโอกาสพูดคุยกับ คุณจั๊มป์ – ธีระพล ธาราชีวิน และ คุณนุ่น – ณัฐธิดา นักการีย์ เจ้าของแฟนเพจ น้ำเมี่ยง-Family กับเรื่องราวของบีเกิ้ลจอมซนทั้ง 2 ตัวนี้ว่ามีที่มาอย่างไร วีรกรรมความแสบซ่าไม่รู้ลืม ที่ได้เปลี่ยนจากวันธรรมดาของคุณจั๊มป์และคุณนุ่น ให้กลายเป็นวันใหม่….

ที่สดใสและมีความสุขกว่าที่เคย

.

.

ครอบครัวของน้ำเมี่ยง

คุณจั๊มป์ : ต้องบอกเราพบกับน้ำเมี่ยงก่อน โดยตอนแรกก่อนที่จะเลี้ยงเขาเราเห็นว่าบ้านเงียบๆ เราก็เลยอยากเลี้ยงสุนัขที่มีขนาดกลางๆ มีนิสัยร่าเริงและพลังงานสูง เป็นมิตรกับเด็ก อาจจะแปลกหน่อยแต่ว่าเราอยากได้น้องหมาที่มีนิสัยซนๆ พอศึกษาแล้วก็พบว่าสุนัขที่เหมาะกับเราน่าจะเป็นสายพันธุ์บีเกิ้ลนี่เอง

เราก็เลยตามหาสุนัขบีเกิ้ลมาเลี้ยงจนกระทั่งเห็นรูปน้ำเมี่ยงทำหน้าตางงๆ อยู่ก็ถูกใจเลยรับมาเลี้ยง แต่น้ำเมี่ยงเป็นผู้หญิงพอโตได้ซักอายุประมาณ 2 ปีก็จะเริ่มนิ่งมากขึ้น ไม่ได้ซนเหมือนตอนเด็กๆ แล้ว เราก็เลยอยากหาน้องเพิ่มอีกตัวหนึ่งเพื่อเพิ่มความสดใสในบ้านขึ้นอีก (หัวเราะ) เรียกว่ายังไม่เข็ด ประกอบกับเราเห็นน้ำเมี่ยงเหงาๆ ด้วย เลยอยากให้มีบีเกิ้ลอีกตัวหนึ่งมาวิ่งในบ้านเป็นเพื่อนกัน ด้วยเหตุนี้ก็เลยรับน้ำเงี้ยวเพิ่มมาอีกตัวหนึ่ง

คุณนุ่น : ที่มาของชื่อน้ำเมี่ยง – น้ำเงี้ยว มาจากสมัยก่อนเราเคยเลี้ยงสุนัขที่เชียงใหม่ ตอนนั้นตั้งชื่อว่า “น้ำปู๋” ซึ่งเป็นชื่ออาหารเหนือ พอกลับมาเลี้ยงสุนัขอีกครั้งก็เลยอยากให้เป็นชื่อซีรีส์อาหารเหนือต่อกันเลยกลายเป็นชื่อน้ำเมี่ยงและน้ำเงี้ยวตามลำดับ

.

.

แรกพบสบตากับความประทับใจใน 28 วัน

คุณจั๊มป์ : ตอนแรกที่เราเห็นน้ำเมี่ยง ท่าทางเขาดูงงๆ เลยคิดว่าไม่ค่อยซน แต่ปรากฏว่าพอได้อยู่ด้วยกันก็เรียกได้ว่าซนสมใจเราเลย จริงๆ ไม่ต้องถึง 28 วัน แค่ 28 นาทีแรกหลังจากได้พบกัน น้ำเมี่ยงก็ทำวีรกรรมสุดแสบด้วยการอึใส่เบาะรถของเราแล้ว เรียกว่าฝากกลิ่นไว้ไม่ลืมเลือนเรียบร้อย พอเจอแบบนี้เราก็รักเค้าเลย จากนั้นเขาก็ขึ้นชื่อว่าเป็นนักกัดรีโมต เรียกได้ว่ารีโมตทุกตัวในบ้านต้องผ่านฟันของน้ำเมี่ยงมาหมดแล้ว

คุณนุ่น : แต่ถ้าคิดว่าน้ำเมี่ยงซนแล้วนั้น ก็ยังสู้ความซนของน้ำเงี้ยวไม่ได้เลย แรกๆ ตอนที่รับน้ำเงี้ยวมาเลี้ยงที่บ้านเขาจะชอบนอนเป็นหลัก เราก็ย่ามใจ แต่พอเขาเริ่มปรับตัวและโตขึ้นนิดนึงเท่านั้นล่ะ ทุกอย่างเรียกได้ว่าถูกกัดหมด เป็นฝีมือคนนี้คนเดียวหมดเลย ไม่ว่าจะเก้าอี้ ขาโต๊ะ โซฟานี่ก็โดนเจ้านี่กัดกระจุยหมดเลย หรือแม้แต่รองเท้าของเราเองก็โดนกัดขาดมาหลายคู่แล้วเหมือนกัน แต่ที่เรียกได้ว่าเป็นวีรกรรมไม่รู้ลืมเลยคือ การกัดสายไฟจนทำให้ไฟดับทั้งบ้านก็เคยทำมาแล้ว

.

.

น้ำเมี่ยง – น้ำเงี้ยว คู่หูคู่ซ่าประจำครอบครัว

คุณจั๊มป์ : แม้จะเป็นบีเกิ้ลเหมือนกันแต่น้ำเมี่ยงกับน้ำเงี้ยวก็มีนิสัยที่แตกต่างกันคือ ด้วยความที่น้ำเมี่ยงเป็นตัวเมีย น้ำเมี่ยงเลยจะมีนิสัยติดคน ขี้อ้อน ชอบให้คนสัมผัสจับเนื้อจับตัว มาคลอเคลียและมาหาเราอยู่เสมอ ต่างกับน้ำเงี้ยวที่มีความเป็นชายหนุ่มเต็มตัว จะชอบเล่นกับสุนัขตัวอื่นๆ ชอบวิ่งเล่นข้างนอก สนใจสิ่งรอบตัว ไม่ติดคนเท่าไหร่ และที่สำคัญคือ ซนกว่าน้ำเมี่ยงมากชนิดที่เรารู้สึกได้เลย

คุณนุ่น : แต่สิ่งที่เหมือนกันคือ เรื่องของอาหาร โดยทั้งคู่จะชอบกินอาหารมากๆ และด้วยความแสบของน้ำเงี้ยวก็จะมีซีนที่แอบมาขโมยอาหารน้ำเมี่ยงอยู่บ้าง เพราะน้ำเมี่ยงเป็นตัวเมียเลยจะกินช้า บางทีก็เผลอทำอาหารหล่นนอกชาม คราวนี้ก็จะเป็นโอกาสของน้ำเงี้ยวที่จะมาแย่งขโมยกินอาหารที่หล่นแทน แต่ถ้าน้ำเมี่ยงไม่เผลอน้ำเงี้ยวก็จะไม่กล้าขโมยนะ เรียกว่ายังเกรงใจกันอยู่เหมือนกัน

.

.

เลือกอาหารอย่างไรให้ถูกใจน้องๆ

คุณจั๊มป์ : ต้องบอกว่าเราเชื่อว่า สุขภาพที่ดีต้องเริ่มต้นจากอาหาร เพราะอาหารเป็นสิ่งที่สุนัขทานทุกวัน สุขภาพจะดีหรือไม่ดีก็ขึ้นอยู่กับอาหารเป็นหลัก ดังนั้นเวลาเราเลือกอาหารให้น้องหมาของเราก็จะเลือกอาหารที่มีสารอาหารครบครัน ประเด็นที่เราให้ความสำคัญมากๆ คือ อาหารสุนัขไม่ควรมีการปรุงแต่งรส แต่งกลิ่นต่างๆ เพราะสิ่งปรุงแต่งโดยเฉพาะรสชาติเป็นสิ่งที่คนคิดว่าอร่อยแต่จริงๆ น้องหมาไม่ต้องการและจะทำให้น้องหมาป่วยได้ ซึ่งเราชอบ SUPERCOAT เพราะทำมาจากวัตถุดิบจากธรรมชาติ ไม่ปรุงรส แต่งสีเลย และที่สำคัญคือน้องที่มาโฆษณาก็เป็นบีเกิ้ลเหมือนน้ำเมี่ยงอีกด้วย (หัวเราะ)

คุณนุ่น : อาหารนี่แหละคือจุดเริ่มต้นของสุขภาพที่ดี เรียกได้ว่าถ้าให้อาหารที่ไม่ดีหรือไม่มีคุณภาพเมื่อน้องๆ ทานเข้าไปจะเห็นผลต่อสุขภาพชัดเลย เช่น ขนร่วง หรือท้องเสีย ถ่ายเหลว ในทางกลับกันอาหารสุนัขที่ดีเมื่อสุนัขทานไปแล้วก็จะทำให้ร่างกายแข็งแรงอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะเรื่องขนที่แค่สัมผัสก็รู้แล้วว่าขนสุขภาพดีจะนุ่มและเป็นเงางาม เหมือนกับ SUPERCOAT ที่เราให้น้องได้ทานแล้วรู้สึกได้เลยว่า 28 วัน ขนเขาก็นุ่มเป็นเงางามและไม่มีปัญหาเรื่องท้องเสียเลย แถมที่สำคัญคือทั้งน้ำเมี่ยงและน้ำเงี้ยวชอบ SUPERCOAT มากๆ

.

.

SUPERCOAT คือที่หนึ่งในใจของครอบครัวน้ำเมี่ยง Family

คุณจั๊มป์ : ต้องเล่าก่อนว่าน้ำเมี่ยงกับน้ำเงี้ยวเขาก็มีการเลือกกินเหมือนกันคือ ถ้าให้อาหารที่เขาไม่ชอบหรือขนาดเม็ดอาหารใหญ่ไปทานยากเขาก็จะไม่กินเลย แต่พอให้ SUPERCOAT แล้วปรากฏว่า พวกเขามีความสุขกับการกินมาก กินหมดเกลี้ยงจนเลียชามทุกครั้ง ที่เราประทับใจคือ ขนาดเม็ดอาหารที่ออกแบบมาอย่างเหมาะสมกับขนาดช่องปากของสุนัขทำให้ พวกเขากินได้ง่าย จนตอนนี้แค่จับถุงอาหาร SUPERCOAT ทั้ง 2 ตัวก็วิ่งหน้าตั้งกันมาแล้ว และถ้าเป็น SUPERCOAT จะให้รสชาติอะไรก็มาเถอะ รับรองน้ำเมี่ยงกับน้ำเงี้ยวกินหมดเรียบทุกรสชาติแน่นอน

.

.

ความสดใสที่เริ่มต้นจากภายในสู่ภายนอก

คุณนุ่น : ถ้าพูดถึงเรื่องการดูแลสุขภาพ เราเอาใจใส่และทำตามคำแนะนำของสัตวแพทย์อย่างเคร่งครัด เราจะพาทั้ง 2 ตัวไปพบสัตวแพทย์ทุกๆ 3 เดือน เพื่อตรวจร่างกายอยู่เสมอ ทำให้ทั้งน้ำเมี่ยงและน้ำเงี้ยวมีสุขภาพแข็งแรง แต่ถ้าจะพูดไปแล้ว สมัยก่อนน้ำเมี่ยงมีปัญหาเรื่องขนนิดหน่อยคือ มีปัญหาเรื่องขนร่วง เราก็คิดว่าอาจจะเป็นเรื่องของอาหารว่า อาหารที่ให้ทานมีสารอาหารไม่เพียงพอหรือสารอาหารไม่สมดุล แต่พอให้กิน SUPERCOAT ก็สุขภาพขนดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

คุณจั๊มป์ : เพราะว่าน้องหมาพูดไม่ได้ เราก็เลยต้องคอยสังเกตเขาว่าซึมไหม กินน้อยลงไหม และสัมผัสตามตัวว่ามีตุ่มหรือถูกอะไรกัดไหม บางทีต้องดูตรงฝ่าเท้าว่ามีอะไรตำหรือเปล่า เราต้องคอยสังเกตทุกรายละเอียด เพราะบางทีเขาอาจจะมีปัญหาในจุดที่เราคาดไม่ถึงก็ได้

.

.

เติมความสดใสในทุกๆ วันกับน้องหมาบีเกิ้ล

คุณจั๊มป์ : เราชอบบีเกิ้ลเพราะเราคิดว่าเขาเป็นน้องหมาที่เข้าหาคนง่าย มีลักษณะคล้ายเด็กซนๆ คนหนึ่ง ซึ่งนี่แหละคือเสน่ห์ของเขาเลย เขาไม่หยุดนิ่ง จะมีอะไรคอยมากวนเราแหย่เราอยู่ตลอด น้องหมาบางตัวอาจจะชอบนอนอย่างเดียว แต่สำหรับบีเกิ้ลจะไม่มีอะไรอย่างนั้นเลย ถ้ามีโอกาสเขาจะมาพันแข้งพันขา ชวนเล่น ล่อหน้าล่อตาเราเสมอ ทำให้เรารู้สึกสนุกครึกครื้นไปด้วยกันทุกวัน

.

จากวันนั้นสู่ “น้ำเมี่ยง Family” วันนี้

คุณจั๊มป์ : จุดเริ่มต้นของการทำแฟนเพจมาจากที่มีคนบอกเราอยู่เสมอว่าบีเกิ้ลน่ะ ฝึกไม่ได้หรอก ฝึกยาก เราก็เลยลองฝึกดูและพบว่าจริงๆ แล้วน้องเค้าก็ฝึกได้ เราก็อยากให้คนอื่นได้เห็นว่าความสามารถของน้องๆ เราเป็นยังไงบ้าง และเป็นการบอกว่าจริงๆ บีเกิ้ลก็ฝึกได้ไม่แพ้น้องหมาตัวอื่นเลย ขึ้นอยู่กับเราทุ่มเทเวลาให้เขาขนาดไหน เราก็เลยเปิดแฟนเพจ “น้ำเมี่ยง Family” ขึ้นมา

น้องบีเกิ้ลจะมีช่วงที่มีสมาธิค่อนข้างสั้น ทำให้ต้องอดทน ซึ่งไม่ใช่สุนัขนะ แต่เป็นตัวเรานี่แหละที่ต้องอดทน บีเกิ้ลมีความไวต่อสิ่งเร้า โดยเฉพาะเสียงรอบตัว พอได้ยินเสียงนิดเดียวก็หันแล้ว เราก็เลยใช้วิธีฝึกเป็นช่วงสั้นๆ ช่วงละ 15-20 นาที ต่อวันเพื่อไม่ให้น้องเค้าเครียดมากเกินไป เรียกว่าค่อยๆ ฝึกและเรียนรู้กันไปเรื่อยๆ ซักพักเขาก็ทำได้เอง

คุณนุ่น : เรารู้สึกประทับใจจากกำลังใจที่มาจากแฟนคลับที่ติดตามน้ำเมี่ยงและน้ำเงี้ยวอยู่เสมอ มีคนต่างชาติส่งของมาให้จากต่างประเทศก็มี เป็นหมอนลายหน้าบีเกิ้ลเลย เราก็รู้สึกดีใจมาก แต่ที่ดีใจกว่าคือ การที่น้ำเมี่ยงและน้ำเงี้ยวได้เป็นคนที่มอบความสุขให้กับคนอื่นๆ เหมือนกับที่พวกเขาได้นำพาความเปลี่ยนแปลงและสนุกสนานมาสู่ชีวิตของเราจนทำให้ทุกๆ วันไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

คุณจั๊มป์ : รู้สึกว่าทุกๆ วันที่ได้อยู่ด้วยกันกับพวกเขาคือวันที่มีความสุขจริงๆ ครับ

.