Published on SPECIAL ISSUE
ที่พิเศษไปกว่านั้นคือ นักวิทยาศาสตร์บอกว่า เสียง Purr ของแมวจะช่วยทำให้มนุษย์รู้สึกผ่อนคลายเมื่อได้ยิน เพราะจากผลการวิจัยของ Dr.June McNicholas พบว่าคนเลี้ยงแมวจะมีความเครียดน้อยที่สุด

แมวบำบัด (Cat Therapy)

เรื่อง : howl intern ภาพ : ชาพีช

นอกจากสุนัขที่เป็นสัตว์เลี้ยงยอดนิยมแล้ว อันดับสองที่ครองใจแน่นอนว่าต้องเป็นเพื่อนซี้สี่ขาอีกชนิดหนึ่ง นั่นก็คือ แมว และด้วยนิสัยที่ขี้อ้อน นุ่มนวล ตัวเล็กน่ารักของแมว จึงถูกเลือกให้ช่วยในการบำบัดความเครียดของมนุษย์ได้

นอกจากนี้แมวยังเป็นสัตว์เลี้ยงที่มีจิตวิทยาสูงอีกด้วย มีทั้งความอยากรู้อยากเห็น สามารถรับรู้สัมผัสหรืออารมณ์ความรู้สึกของคนได้อย่างดี โดยแมวที่ใช้ในการบำบัดควรเลือกแมวที่มีเสน่ห์ดึงดูด น่ารัก ขนสวย มีนิสัยที่เป็นมิตร สงบและไม่ตกใจง่าย สามารถทนต่อสิ่งที่มองเห็นหรือเสียงที่ผิดแปลกได้ดี

และสำหรับเหล่าทาสแมวทั้งหลายที่ต้องใช้ชีวิตร่วมกันกับเจ้านาย คงเคยได้ยินเสียงฟี่ๆ ดังมาจากน้องแมวอย่างคุ้นหูเลยใช่ไหมล่ะ เรื่องนี้ได้มีการศึกษาวิจัยมาแล้วหลายครั้ง จนได้ข้อสรุปว่า เสียงครางของแมว หรือที่เรียกว่าเสียง Purr ช่วยบรรเทาอาการกระดูกหัก ช่วยฟื้นฟูกล้ามเนื้อ และช่วยบรรเทาอาการหายใจติดขัดของแมวได้ ที่พิเศษไปกว่านั้นคือ นักวิทยาศาสตร์บอกว่า เสียง Purr ของแมวจะช่วยทำให้มนุษย์รู้สึกผ่อนคลายเมื่อได้ยิน เพราะจากผลการวิจัยของ Dr.June McNicholas พบว่าคนเลี้ยงแมวจะมีความเครียดน้อยที่สุด เนื่องจากเสียงครางของแมวมีคุณสมบัติในการช่วยลดความตึงเครียดของมนุษย์ได้ รองลงมาคือคนที่เลี้ยงสุนัข ส่วนคนที่ไม่ได้เลี้ยงอะไรเลยมีโอกาสที่จะเครียดมากที่สุด เพราะพวกเขาไม่มีโอกาสได้สัมผัสถึงเสียงครางของสัตว์เลย

สำหรับรูปแบบของแมวบำบัดคือ การฝึกให้แมวไปนวดคนชราที่มีความเมื่อยล้าของกล้ามเนื้อร่างกายและผู้มีความผิดปกติของระบบการเคลื่อนไหว นอกจากการถูกแมวนวดแล้วการได้เล่นกับแมวหรือ การลูบขนแมวยังช่วยผ่อนคลายความเครียด รวมถึงฝึกการใช้กล้ามเนื้อมือได้อีกด้วย แต่แมวที่จะใช้บำบัดต้องเลือกแมวที่คุ้นเคยกับคนตั้งแต่เกิด เพราะตามสัญชาตญาณของแมวจะไม่เชื่องง่ายเหมือนกับสุนัขแน่นอน ถ้านำแมวที่ไม่คุ้นเคยมาใช้อาจทำให้ถูกฝากรักด้วยบาดแผลตามเรือนร่างก็เป็นได้